นายนพดล หลาวทอง ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงว่าเมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) ศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้องนายเริงชัย มะระกานนท์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ถูกฟ้องเป็นคดีแพ่ง เมื่อปี 2544 โดยฟ้องเรียกให้ต้องรับผิดเป็นจำนวนเงินสูงถึง 1.8 แสนล้านบาท จากการดำเนินนโยบายปกป้องค่าเงินบาทแล้วขาดทุน ซึ่งในฐานะที่ตน เป็นทนายความทั้งคดีนายเริงชัย มะระกานนท์และน.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงขอเรียกร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ดังต่อไปนี้
1. น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายเริงชัย ถูกตรวจสอบและเรียกร้องเป็นค่าเสียหายจากการคิดกำไร ขาดทุนเหมือนกันและเกิดจากการดำเนินนโยบายของประเทศเหมือนกันคือ นโยบายใช้เงินช่วยเหลือเกษตรกรจากการรับจำนำข้าวเปลือกฯ และนโยบายใช้เงินปกป้องค่าเงินบาทจากการถูกโจมตีจากต่างชาติ
2. การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ของบุคคลทั้งสองเหมือนกันคือ หน้าที่และความรับผิดชอบต่อการปฏิบัตินโยบาย ซึ่งศาลฎีกาได้วางบรรทัดฐาน (President case) เมื่อวานนี้ว่าการต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อการตัดสินใจด้านนโยบายนั้นแม้จะต้องสูญเสียเงินไปก็จะถือเป็นความเสียหายคือ คิดเป็นกำไร ขาดทุนไม่ได้
3. ในคดีของนายเริงชัยรัฐบาลขณะนั้นได้ใช้วิธีฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง คือให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยศาล ซึ่งในที่สุด ทั้งศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ก็พิพากษาว่านายเริงชัย ไม่ได้กระทำผิด ไม่เกิดความเสียหาย แต่รัฐบาลนี้กลับไม่ให้ความเป็นธรรมต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะจะใช้วิธีรวบรัดออกคำสั่งของฝ่ายบริหาร (คำสั่งทางปกครอง) ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์รับผิดโดยทันที แทนที่จะใช้วิธีฟ้องศาลแพ่งเหมือนนายเริงชัยฯ รวมทั้งการออกคำสั่งตาม มาตรา 44 อีกหลายคำสั่ง เช่น จะให้กรมบังคับคดี ยึด อายัดทรัพย์ ขายทอดตลาด โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น ซึ่งเจาะจงใช้เฉพาะน.ส.ยิ่งลักษณ์
นายนพดล กล่าวอีกว่า ตนขอเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ ให้นำเอาคำพิพากษาศาลฎีกาที่เพิ่งวางบรรทัดฐาน เมื่อวานไปใช้ทบทวนต่อกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เสียใหม่ว่าควรที่จะไม่ต้องรับผิด ต่อการทำหน้าที่ตัดสินใจทางนโยบาย เหมือนนายเริงชัย แต่หากยังคงมุ่งมั่นจะเรียกให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดให้จงได้ก็ต้องปฏิบัติเหมือนกัน โดยการส่งคดีขึ้นฟ้องต่อศาลแพ่ง ซึ่งสอดคล้องกับที่ พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่าเรื่องทริปฮาวาย 20 ล้านบาทนั้น เป็นเรื่องงานความมั่นคง (นโยบาย) ไม่ได้วัดความคุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ ตนในฐานะทนายความทั้งนายเริงชัย และน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะได้ทำหนังสือเรียกร้องต่อพล.อ.ประยุทธ์ ในประเด็นนี้พร้อมกับส่งคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว ให้พิจารณาทบทวนสั่งการเสียใหม่ด้วย เพราะถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ล่าสุด