เปิดหมดเปลือก !!! รฐา ได้ควง ตุลย์ ตุลยเทพ  เผยความสัมพันธ์ดำเนินไปด้วยความไว้ใจถึงทำให้เข้าใจและรักกัน พร้อมเล่าอีกมุมของสามีที่เกรี้ยวกราด

      เมื่อ หญิง รฐา ได้ควง ตุลย์ ตุลยเทพ มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ  Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดแบบหมดเปลือกทุกเรื่องราวของชีวิตในเรื่องราวของชีวิตเผยความสัมพันธ์ดำเนินไปด้วยความไว้ใจถึงทำให้เข้าใจและรักกัน พร้อมเล่าอีกมุมของสามีที่เกรี้ยวกราด

 และในช่วงที่ระหว่างคบกันก็มีเรื่องราวเข้ามาให้ความสัมพันธ์ ดำเนินไปด้วยความไว้ใจ
หญิง รฐา : มันจะมีช่วงหนึ่งที่เราไปต่างจังหวัดด้วยกัน และก็ หญิง ก็ยังไม่ค่อยแฮปปี้กับสถานการณ์ตรงนี้แล้วเราก็รู้สึกว่าเราอยู่กับความสัมพันธ์ที่เราถูกโกหกบ่อยค่ะ หมายถึงที่ผ่านมานะคะ มันเลยทำให้เราระแวง ในขณะเดียวกันเราก็เจอความสัมพันธ์ที่หึงหวง วันนั้นมันเลยเป็นโมเมนต์ที่อยู่ดีๆเขาก็บอกว่าเดี๋ยวพี่ออกไปเดินริมทะเลแป๊บหนึ่งแล้วเขาก็หายไปเลย

 ตอนนั้นรู้สึกอะไรหรือคิดอะไรทำไมถึงออกไปเดิน
ตุลย์ ตุลยเทพ : เหมือนขอเวลาส่วนตัวพักหนึ่งครับ เราไม่เข้าใจเขา เขาไม่เข้าใจเราคุยแล้วมันไม่มีทางออกก็เลยห่างกันสักพักดีกว่า ซึ่งก่อนที่จะไปถึงทะเลก็คือการนั่งรถไปด้วยกันคันเดียวกัน ไม่ได้คุยกัน นิ่ง เงียบ มันจะหนักมากไม่ไหวแล้วขอออกไปสูดอากาศแป๊บหนึ่ง

แปลว่าในใจของ ตุลย์ ตอนนั้นถูกพูดในใจก็คือเรารู้สึกว่ามันไม่มีอะไรหรอก 
ตุลย์ ตุลยเทพ : อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง คิดว่าความคิดเราถูกนะทำไมเขาถึงคิดแบบนี้หรือไม่อาจจะมีส่วนหนึ่งทีพยายามคิดเข้าใจเขาด้วย ว่าทำไมเขาถึงพูดกับเราแบบนั้น ทำไมอยากให้เราทำแบบนั้น 

หญิง รฐา : แล้ว พี่ตุลย์ เขาก็ไปเดินทะเลนานมากเป็นชั่วโมงเลยค่ะ
ตุลย์ ตุลยเทพ : ยุงกัดด้วยครับ (ยิ้ม) พระจันทร์สวยมากด้วยครับ
หญิง รฐา : หญิง ก็นั่งนั่งอยู่ในห้องค่ะ ก็นั่งคำนวณ นั่งคิดว่าเรามากเกินไปหรือเปล่าเหมือนเขาก็ทำให้เราแล้วนะ แต่ว่าอีกคนหนึ่งก็ไม่หยุดไง ในเมื่ออีกคนหนึ่งเขาพยายามเข้ามาอีกเราควรจะทำอย่างไรดี คือ เหมือนเขาก็ยังอยากให้ไปสอนอยู่แล้วคนนี้ก็ปฏิเสธใครไม่เป็นด้วยไง จนสุดท้ายจำได้ว่ามีบางโมเมนต์ที่เราไปด้วย สิ่งที่เขาทำให้เราในวันที่อีกคนอยู่ในรอบๆเหตุการณ์นั้นมันเคลียร์มากคือเขาก็เดินมาป้อนน้ำป้อนข้าวเราคือ ดูแลเราดี คือให้เห็นเลยว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาดูแลแล้วอยู่ดีๆเรื่องราวเหล่านี้มันก็หายไปเองเหมือนอีกคนเขาก็หายไป ความพยายามเขาก็น้อยลงไปเอง แต่ว่าวันที่เราไม่เข้าใจกัน หญิง จำได้เลยว่า พี่ตุลย์ เดินกลับมาจากทะเลแล้วมาพูดกับ หญิง ประมาณว่าความสัมพันธ์ของคนสองคนมันอยู่กับความไว้ใจและก็ความซื่อสัตย์ ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาเขาใช้ 2 สิ่งนี้มาตลอด ถึงแม้วันหนึ่งเขาจะผิดหวัง หรือถึงแม้ว่าวันหนึ่งมันจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ความสัมพันธ์นั้นไปต่อไม่ได้ แต่เขากลับมามองตัวเองตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายเขา 100 เปอร์เซ็นต์และมันจบไง แล้วเขาทำดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าระหว่างทาง หญิง ยังเป็นคนที่ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์สักอย่าง ไม่ไว้ใจสักทีไม่รู้สึกว่าเขาซื่อสัตย์กับเราสักทีความสัมพันธ์นี้มันไม่มีทางเลยที่จะแบบถ้าจบแล้วมันไม่มีอะไรค้างคา หลังจากวันนั้น หญิง เลยตัดสินใจว่า โอเค .. ทั้งๆที่ยังมีเรื่องนั้นอยู่นะ ยังไม่ได้ถึงวันที่เราคลี่คลายแล้ว โอเค หญิง จะมองในมุมของเขา รับฟังเขาและจะเชื่อใจและไว้ใจทั้งตัวเองและเขา 100 เปอร์เซ็นต์ตลอดความสัมพันธ์นี้ หญิง จะไม่รู้สึกเลยว่า หญิง ไม่ปลอดภัยแล้วมันก็ดันมีอีกเรื่องหนึ่งก็คืออยู่ดีๆเขาก็เดินมา ผ่านช่วงเวลานี้ไป 5-6 เดือนเขาก็มาสะกิดบอกว่าเพื่อนพี่เขาไปสอนคนนี้ว่ายน้ำแล้ว แต่ผู้ชายคนนี้มีแฟนอยู่แล้ว แล้วสุดท้ายก็เลิกกับแฟนเก่าแล้วก็มาคบกับคนที่เขาสอนว่ายน้ำ หญิง เลยหันไปพูดกับเขาว่านี่คือสิ่งที่ หญิง พยายามจะบอกไงว่าบางอย่างบางครั้งเซนส์ของผู้หญิงที่มันรู้สึกมันมีนะแต่ว่ามันอาจจะต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ความรู้สึกนั้นนิดนึง 
 

ตุลย์ ตุลยเทพ : ก็ยังไม่เต็มร้อยครับ แปดสิบเปอร์เซ็นต์


เห็นเป็นผู้ชายที่ก็ดูเงียบๆนิ่งๆก็เห็นความเป็นคนที่อารมณ์ร้อนพอสมควร
หญิง รฐา : เกรี้ยวกราดในบางเวลา คือ ปกติคนอื่นก็จะเป็นคนอารมณ์ร้อน พี่ตุลย์ จะเป็นคนที่ไม่อารมณ์ร้อนค่ะ  สิ่งที่ทำให้เขาแปลงร่างได้ก็คือ การสตาร์ตรถขับรถแล้วเขาจะเปลี่ยนอย่างนี้เลยเป็นคนขับรถไม่เร็วแต่เป็นคนขับรถใจร้อน

ตุลย์ ตุลยเทพ : ตอนขับรถนะครับ ส่วนตอนอื่นๆเป็นคนโกรธง่ายแต่ว่าไม่แสดงอาการ โกรธง่ายหายเร็ว สีหน้าจะมีบ้าง
หญิง รฐา : ไม่มีบ้าง มีค่ะ (ยิ้ม)

ตุลย์ ตุลยเทพ : อันนี้คือเหตุการณ์ปกติปรี๊ดก็จะหาย แต่อย่างเวลาขับรถอยู่เลยขวาพอมันปรี๊ดแล้วมันไม่ค่อยลงเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้บีบแตรใส่เขานะครับ

หญิง รฐา : เขาก็จะพูดออกมามากกว่าว่าทำไมวันนี้ขับรถกันแบบนี่ เราก็จะคอยแบบ ลองคิดดูว่าแม่เขาป่วยเราก็จะพยายามมองโลกอีกแบบหนึ่ง คือ ถ้าเขาแบบทำไมขับช้าแบบนี้ ถามว่าตอนแรกที่เห็นมุมนี้ของ พี่ตุลย์ ตกใจเหมือนกันแต่เขาก็เห็นในมุมของเราที่น่าจะตกใจเยอะเหมือนกัน

ตุลย์ ตุลยเทพ : จริงๆเรื่องอารมณ์การขับก็เคยนั่งคุยกันนะครับ พร้อมกับคุณแม่ของผม แม่เป็นคนสอนขับรถครับตั้งแต่ม.2 เพราะว่าตัวสูงตั้งแต่เด็กพอสูงแบบเหยียบคันเร่งได้แม่ก็เลยบอกว่ามาลองขับก็เลยซึมซับวิธีการขับรถแบบคุณแม่มา (ยิ้ม) 

หญิง รฐา : อย่าโบ้ยแม่ค่ะ มันเป็นตัวเราค่ะ

ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคนแต่การจะเดินหน้าไปได้ไกลแค่ไหนมันต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่แค่คนสองคนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายด้วยแล้วผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายของเราในตอนแรกๆก็เหมือนจะไม่เห็นด้วยในความรัก


หญิง รฐา : ช่วงแรกๆที่คบกันเราก็ยังไม่ได้บอกทางบ้านว่าเราคุยกับใคร จนมีช่วงหนึ่งก็เลยบอกว่า หญิง เริ่มมีคนคุยนะแม่เป็นพี่ที่เคยรู้จักกันมาก่อน จังหวะมันก็ดันมีข่าวขึ้นมาแม่ก็เหมือนกับเรียกมาคุยว่ามันเกิดอะไรขึ้น นี่มันอะไร ก็เลยทำให้ข่วงแรกๆคุณแม่ไม่ค่อยเปิดรับค่ะ ถ้ารู้ว่า พี่ตุลย์ จะมาส่งเขาจะออกไปซื้อของนะขับรถออกไปซื้อของ ไปห้างอะไรอย่างนี้ค่ะ จน พี่ตุลย์ กลับเขาค่อยกลับเข้ามา จนวันหนึ่ง พี่ตุลย์ ก็เลยคุยกับคุณแม่

ตุลย์ รู้ไหมว่า แม่น้อย ไม่ค่อยปลื้มเราสักเท่าไหร่ แล้วเราคิดอย่างไรตอนนั้น
ตุลย์ ตุลยเทพ : รู้จาก หญิง ครับ เพราะว่า หญิง จะคุยกับคุณแม่และมาบอกมาคุยกันสองคน คือ ผมไม่ได้คิดว่าการคุยการบอกกับ แม่น้อย มันจะทำให้ แม่น้อย เชื่อใจเราทันที ผมก็เชื่อว่าการใช้ระยะเวลาพิสูจน์ตัวเองมันเห็นผลมากกว่า แต่ว่า แม่น้อย เองก็อยากจะได้คำมั่นสัญญาจากเราเหมือนกันว่าให้เรารับปากนะมีปัญหาอะไรก็เคลียร์ให้แม่น้อยได้เข้าใจก่อน ส่วนจะพิสูจน์ตัวเองอย่างไรก็ให้อภัยเป็นสเตปต่อไป

ในวันที่เข้าไปคุยตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
หญิง รฐา : แม่บอกว่าให้ หญิง ขึ้นไปเลยเขาก็คุยกันข้างล่าง
ตุลย์ ตุลยเทพ : แม่น้อย เขาจะถามผมตลอดว่าฝั่งนู้นจบแล้วแน่นอนใช่ไหม เหมือนกับ แม่น้อย ก็อ่านมาจากข่าวมาแล้วยังคิดว่ายังไม่จบหรือเปล่าแล้วมาคบกับ หญิง แล้วจะทำให้ หญิง เสียใจหรือเปล่า ตอนนั้นก็บอก แม่น้อย ว่ามันจบแล้วครับคือแบบทีข่าวเขียนไปไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด เราก็จะเล่าเรื่องจริงให้แม่น้อยฟังอีกส่วนหนึ่งคือเรื่องอนาคต แม่น้อย ก็จะห่วงว่าคบกับหญิงจะจริงจังแค่ไหนคือมองอนาคตอย่างไร เราก็เลยบอกว่าผมจริงจังคิดว่าจะแพลนถึงแต่งงานกัน พอผมบอกอย่างนั้นเสร็จ แม่น้อย ก็บอกว่ารู้ใช่ไหมว่า แม่น้อย รัก หญิง แค่ไหนอย่าทำให้ หญิง เสียใจ
หญิง รฐา : ก็เหมือนขําแหละค่ะ (ยิ้ม) 

แต่หลังจากนั้นพอ แม่น้อย ได้คุยแล้วเป็นอย่างไรบ้าง 
หญิง รฐา : คุณแม่ก็ได้เริ่มเห็นถึงความสม่ำเสมอของเขา เขาก็เริ่มสบายใจขึ้นจนทุกวันนี้ก็ทีม หญิง ก็มีแค่ หญิง แม่ เป็น ทีม ตุลย์ แล้วไม่ใช่ทีม หญิง แล้วทุกวันนี้ หญิง จะทานข้าวอะไรก็ต้องรอว่า ตุลย์ อยากกินอะไรน้ำพริกกะปิ..ได้เดี๋ยวแม่ทำให้แล้วเวลาจัดเนี่ย จานทุกอย่างจะเทมาอยู่ที่ฝั่ง พี่ตุลย์ กับข้าวทุกอย่างคือเท หญิง ก็จะนัางแบบจานข้าวไกลๆตกกระป๋อง 

ตัดภาพไปที่คุณพ่อคุณแม่ขอ ตุลย์ 
หญิง รฐา : เหมือน 2 ปีกว่าเราเริ่มคุยเรื่องงานแต่งงานค่ะ 


ตุลย์ ตุลยเทพ : ตลอดทั้ง 2 ปี คุณพ่อคุณแม่ก็รับรู้ครับ ก็จะไปทานข้าวด้วยกันตลอด
หญิง รฐา : เป็นช่วง 2 ปีที่เราคุยกันว่าเราอยากแต่งงานแล้วนะ เหมือนวันนั้นก็ตัดสินใจไปพูดกับทางบ้าน พี่ตุลย์ อันนี้ถ้ามองในมุมของ หญิง เองค่ะ หญิง รู้สึกว่า 2 ปีมันก็ไม่มากไม่น้อยเนอะกับความสัมพันธ์ของคนสองคนเราศึกษากันโอเคแล้วแหละ แต่วันนั้นสิ่งที่ผู้ใหญ่สอนเรากลับมาอีกทีเหมือนกันว่าแบบ 2 ปีมันไม่ใช่เวลามากเลยนะรู้หรือยังว่าแต่ละคนมีข้อเสียอย่างไรรู้หรือยังว่าจริงๆแล้วในมุมหนึ่งของ พี่ตุลย์ เป็นคนที่ไม่ได้หวือหวาตลอดเวลา ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้เราตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลาวันหนึ่งเราจะเบื่อกันไหมเราจะรู้สึกขาดความรักหรือเปล่าคือหญิงว่าผู้ใหญ่เขาก็อยากให้เราศึกษากันมากกว่านี้อีกสักหน่อย วันนั้นก็เป็นวันที่เราช็อกเหมือนกัน หญิง พยายามเข้าไปมองในมุมของทางครอบครัวทั้งแม่หญิงด้วย คุณพ่อคุณแม่พี่ตุลย์ด้วย

ต้องบอกว่าเป็นอีกคู่ที่คบกันมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์นั่นนี่ต่างๆนานามากมายและอยู่ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดเรามีภูมิคุ้มกันแข็งแรงแค่ไหน
หญิง รัฐา : หญิง อยู่วงการนี้มาเราทุกคนมีภูมิคุ้มกันประมาณหนึ่ง โชคดีที่เป็น พี่ตุลย์ เข้ามาเพราะว่าเขาพูดในมุมของเขาว่าให้มองโลกแบบนี้คือมันก็จบ เราก็เข้าใจโลกเลยส่า อ๋อ !! มันก็จริง


ตุลย์ ตุลยเทพ : จริงๆได้มาจากคุณแม่เพราะว่าคุณแม่เป็นสายธรรมะและก็ชวนผมไปปฏิบัติธรรม ผมได้เคยฟังหลวงปู่ชาที่ท่านได้เทศน์ไว้ท่านก็ได้บอกไว้ คนเขาจะพูดถึงเราอย่างไรก็ได้ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น เราก็ไม่ต้องไปเดือดร้อน เวลา หญิง เจอเหตุการณ์อะไรแล้วเจอคนมาคอมเมนต์ในอินสตาแกรมก็ปล่อยวาง เราจะไปห้ามคนให้เขาคิด ห้ามคนให้เขาพูดไม่ได้เขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิดจะพูดของเขาไปถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น เราก็ไม่ต้องไปเดือดร้อนอะไร

หญิง รฐา : การที่ หญิง มาเจอเขา หญิง รู้สึกว่าเราเคยคุยกันเสมอว่ามันเป็น best version ของเราทั้งคู่คือจากเขาที่เป็นคนที่ไม่ได้เปิดโลกเจอใครเขาก็มีความรู้สึกว่าความเป็น หญิง ความสบายๆความง่ายๆของ หญิง มันก็ทำให้เขาง่ายขึ้นกับการที่เขาจะเปิดประตูรู้จักใคร ในมุมหนึ่งที่ หญิง อาจจะอยู่ในโลกที่มันหวือหวาอยู่ตลอดเวลามีเขามาคอยสอนเรื่องพวกนี้ค่ะ มันก็ทำให้เรามองโลกเบรกเราไปได้อีกเยอะเลย หญิง จะขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์แล้วเบรกลงมาได้ 50-60 เปอร์เซ็นต์มันก็ช่วยเราได้เยอะและทำให้เรารู้สึกว่ามาอยู่ด้วยกันแล้วมันเติมเต็ม ในส่วนที่แต่ละคนไม่มี

ตุลย์ ตุลยเทพ : กับสิ่งต่างๆที่เคยผ่านมาด้วยเราเคยตามหาอะไรบางอย่างที่เราไม่มี ถ้าเราหาเจอได้มันก็โอเค แต่ถ้าหาไม่เจอ มันยิ่งพยายาม ยิ่งเหนื่อย ยิ่งค้นหา ดังนั้นถ้าเรากลับมามองว่าถ้าเราสมบูรณ์แล้วเราแค่หาอีกคนมาเพื่อที่จะเพิ่มมันให้มากขึ้นไปอีก 2 คนเดินด้วยกันมันทำให้ชีวิตที่มัน 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้วมันอาจจะเป็น 120 หรือ 150 เปอร์เซ็นต์

มีอะไรที่จะบอกถึงกันและกันบ้าง

หญิง รฐา : ดีใจที่วันนั้นเขาทักมาค่ะ และก็ดีใจที่วันนั้นเขาตัดเราไปแล้ววันหนึ่งเขาก็เป็นคนที่เดินกลับเข้ามาเอง ขอบคุณอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้กลับมาเจอกันและขอบคุณที่วันนี้เรามาเจอกันในวันที่เติบโตแล้วค่ะ มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและขอบคุณที่มาเติมในส่วนของสติของ หญิง (ยิ้ม) 
ตุลย์ ตุลยเทพ : หญิง จะเคยพูดว่าคนที่ใช่ในเวลาที่ไม่ใช่ มันก็ไม่ใช่ ดังนั้นการที่เรามาเจอกันผมคิดว่าผมคิดว่าอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เราสองคนมาเจอกันในเวลาที่เหมาะสมและก็สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้ก็อยากให้ใช้ชีวิตแบบนี้ไปด้วยกันเรื่อยๆเป็นเพื่อน เป็นพี่ คอยเตือนสติซึ่งกันและกันเพราะว่าบางทีเราคนเดียวมันอาจจะมองพลาดมองข้ามอะไรบางอย่าง อยากให้มีคนที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่สามารถพูดอะไรก็ได้กับเรา และเขาเต็มใจที่จะพูดโดยที่เราไม่ต้องขอคอยชี้แนะ คอยชี้จัดบกพร่องอะไรให้เราให้เราได้พัฒนาไปเรื่อยๆอยู่ด้วยกันอย่างนี้ดีกว่าครับ