วันที่ 20 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนัส โกศล หัวหน้าพรรคแรงงานสร้างชาติ เดินสายเปิดตัวหัวหน้าสาขาภาคใต้ พร้อมกล่าวว่า จะทำให้คนไทยสุขภาพดี มีเงินใช้ และ มีความสุข ภายใต้นโยบายของทางพรรคแรงงานสร้างชาติ คือ 1.คนทำงานต้องได้สิทธิจากประกันสังคมดีกว่าเดิม 2.คนทำงานการเกษตรต้องได้รับการสนับสนุนครบวงจร 3.ทุกครอบครัวต้องมีแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ น้ำสำหรับพัฒนาอาชีพ และ 4.ทุกคนต้องได้สิทธิประโยชน์ด้านสังคมและสุขภาพ
โดย นายมนัส ได้นำคณะลูกทีมพรรคการเมืองเปิดประชุมจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ตรัง พร้อมมเปิดประชุมจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองเขตเลือกตั้งที่ 3 ของจังหวัดตรัง ในครั้งนี้
ซึ่งนายวสันต์ พานเงิน เลขาธิการพรรค ได้กล่าวว่า การจัดประชุมตั้งสาขาพรรคการเมือง โดยมีเจ้าหน้าที่ กกต. 3 ท่าน จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรัง ตลอดจนพี่น้องประชาชน และ สมาชิกพรรค เข้าร่วมรับฟังการประชุม ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ และ ได้รับการรับรองรายชื่อคณะกรรมการสาขาพรรคแรงงานสร้างชาติ อย่างเป็นทางการทั้ง 7 ท่าน ประกอบด้วย นายชัยยุทธ รองเดช เป็นหัวหน้าสาขาพรรค , นายสมนึก กาญจนศิลานนท์ รองหัวหน้าสาขาพรรค , นางทิพรัตน์ อุดมศักดิ์ เลขานุการสาขาพรรค , นายเจริญพร แซ่อึ่ง เหรัญญิกสาขาพรรค, นายสมาน คาราวะ นายทะเบียนสมาชิกสาขาพรรค , นายวจนะ เหล็มปาน ผู้ช่วยนายทะเบียนสมาชิกสาขาพรรค และ นายเฉลิม จิตรหลัง โฆษกสาขาพรรค
ขณะที่ นายมนัส ยังกล่าวต่อว่า พรรคแรงงานสร้างชาติมีความพร้อม มีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถและพร้อมที่จะเข้าไปทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงาน เพราะบุคลากรที่มาร่วมกันนั้น ทำงานด้วยกันมานาน และทำงานกันในฐานะผู้ดำเนินการปรับปรุงคุณภาพสวัสดิการคนทำงานร่วมกันมานานมาก ซึ่งมีผลงานชัดเจนมาแล้วมากมาย จึงพูดได้ว่า ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำให้คนทำงานมีชีวิตที่ดีขึ้นไม่เป็นรองใครแน่นอน เพราะพรรคแรงงานสร้างชาติ เกิดขึ้นจากกลุ่มคนที่ต่อสู้เพื่อทำให้คนทำงานทุกคนได้รับสิ่งที่ควรได้เหมาะสมกับความทุมเททำงานสร้างสรรค์ความเจริญในประเทศ
ขณะที่โครงการที่ทางพรรคได้ดำเนินงานผลักดันไปแล้ว ได้แก่ โครงการจัดตั้งโรงพยาบาลแรงงานโครงการปรับปรุงสวัสดิการลูกจ้างรัฐและเอกชน , โครงการธนาคารแรงงาน , โครงการพัฒนาการทำเกษตรสุขภาพ และ อีกหลายโครงการที่จะช่วยให้คนทำงานมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม หลายโครงการก้าวหน้าไปมากแล้ว
ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้ นโยบายของทางพรรคแรงงานสร้างชาติ คือ 1.คนทำงานต้องได้สิทธิจากประกันสังคมดีกว่าเดิม 2.คนทำงานการเกษตรต้องได้รับการสนับสนุนครบวงจร 3.ทุกครอบครัวต้องมีแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ น้ำสำหรับพัฒนาอาชีพ และ 4.ทุกคนต้องได้สิทธิประโยชน์ด้านสังคมและสุขภาพ โดยหัวใจสำคัญ ผู้ใช้แรงงานต้องมีธนาคารแรงงานและโรงพยาบาลประกันสังคม เกษตรกรต้องมีแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึง โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญที่สุด คือ คนไทยทุกภาคส่วนต้องมีสุขภาพดี มีเงินใช้ และ มีความสุข
พร้อมกันนี้ หัวหน้าพรรคแรงงานสร้างชาติ กล่าวเน้นย้ำว่า ประเทศจะมั่นคงยั่งยืนไม่ได้เลยถ้าคุณภาพชีวิตของคนทำงานยังไม่ดี ซึ่งเราต้องยอมรับก่อนว่า ทุกๆคนคือคนทำงาน ทุกๆคนคือคนสำคัญ ที่เราต้องทดแทน
อีกทั้งหลังการประชุม นายมนัส ได้กล่าวถึงภาพรวมกรณีความพร้อมการเปิดสาขาพรรค , การเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง , รวมถึงความกังวลเรื่องสูตรการหารคะแนนเลือกตั้ง 100 กับ 500 และ หากพรรคแรงงานสร้างชาติได้มีโอกาสเข้าไปในสภาทางพรรคจะเลือกใครมาเป็นนายกฯ ว่า ในสูตรการหารคะแนนเลือกตั้ง 100 กับ 500 ทางพรรคไม่รู้สึกหนักใจอะไร ความเป็นไปได้อยู่พี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศกว่า 20 กว่าล้านคน หากเห็นว่าโครงการต่าง ๆ ที่ได้ทำงานก่อนหน้านี้ และ ที่จะทำต่อไป ตามนโยบายของทางพรรคนั้น สามารถจับต้องได้ และ สนับสนุนให้ได้ทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น พรรคแรงงานสร้างชาติจะสามารถเดินหน้าสู่ขบวนการเลือกตั้งได้ครบทุกเขตอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ทางพรรคจะต้องพิจารณาคุณสมบัติของผู้ลงสมัครและจะต้องมีอุดมการณ์ที่ตรงกัน รวมถึงมีการตรวจสอบประวัติของผู้ที่จะลงสมัครอีกด้วย ในส่วนคำถามที่ว่า หากมีโอกาสเข้าไปในสภาแล้วจะเลือกใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ทางพรรคมองว่ายังไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ สิ่งที่สำคัญเร่งด่วนในตอนนี้ คือ เรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มองว่าทำให้เศรษฐกิจถดถอย การว่างงานเยอะมาก สินค้าแพงค่าแรงถูก ทุกคนกำลังเดือดร้อน ทางพรรคแรงงานสร้างชาติจึงขอมองประเด็นที่จะบรรเทาความเดือดร้อน และ ทำให้คนทำงานทุกคน มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมก่อน
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคแรงงานสร้างชาติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ มองเห็นความตั้งใจทำงานของพรรคที่ได้ทำตลอดมา และสนับสนุนให้พรรคแรงงานสร้างชาติสามารถส่งลงสมัครได้ครบทุกเขต โดยทางพรรคแรงงานสร้างชาติ จะจัดประชุมใหญ่ในวันที่ 4 กันยายน นี้ ที่ห้องประชุมครัวบุญเลิศ บางปู สมุทรปราการ