-คิกออฟรถเมล์ไฟฟ้า สาย 8 พลิกโฉมใหม่พร้อมบริการเต็มรูปแบบ ค่าโดยสาร 15-20-25 บาท พร้อมรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายแค่ 10 บาทช่วยดูแลผู้มีรายได้น้อย เอกชนออกตั๋ว 40 บาท/วัน นั่งสุดคุ้ม กระทรวงคมนาคมตั้งเป้า ธ.ค.นี้มีรถเมล์ไฟฟ้า 1,250 คันวิ่งบริการ
-กยศ.ออกมาชี้แจงกรณีดราม่า #ล้างหนี้กยศ หากยกเลิกหนี้จะทำให้คนรุ่นใหม่ไม่มีอากาสทางการศึกษา และงบประมาณของ กยศ.ใช้ทุนหมุนเวียน ไม่ได้แสวงหาผลกำไร ไม่ใช้งบประมาณแผ่นดิน
-บสย.ออกมาตรการใหม่ ชุบชีวิตเอสเอ็มอีแก้หนี้ยั่งยืนประคองธุรกิจ SMEs ต่ออายุค้ำ 10 ปี และต่อพร้อมเติมค้ำประกันเพิ่ม เติมสภาพคล่อง วงเงิน 6,000 ล้านบาท
-ธนาคารกรุงไทย (KTB) แจ้งตามที่กระทรวงการคลัง ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 เป็นวันแรกนั้น เนื่องจากมีผู้เข้ามายืนยันสิทธิเป็นจำนวนมาก ทำให้แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เข้าใช้งานไม่ได้ ก่อนปรับปรุงแก้ไขและใช้ได้ในเวลาต่อมา โดยสถานการณ์เปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 5 วันแรก รายเดิมกดรับสิทธิคนละครึ่งบนเป๋าตังแล้ว 7.3 ล้านคน ส่วนรายใหม่ลงทะเบียนเต็มจำนวน 2.3 แสนคน เริ่มใช้จ่ายพร้อมกัน 1 ก.ย.นี้
-สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง(ทองคำ 96.5%) ในประเทศเปิดตลาดเมื่อเวลา 09.27 น.ราคาทองปรับลง 50 บาท โดยทองคำแท่งรับอยู่ที่บาทละ 29,700 บาท ขายออก 29,800 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณรับซื้ออยู่ที่บาทละ 29,167.84 บาท ขายออก 30,300 บาท ส่วนราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot อยู่ที่ 1,756.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
-บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) และ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 0.60 บาท/ลิตร ยกเว้น E85 ขึ้น 0.40 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.65) เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่นวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 44.56 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 37.15 บาท,แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 36.88 บาท, E20 ลิตรละ 36.04 บาท และ E85 ลิตรละ 33.04 บาท ส่วนน้ำมันดีเซล B7, B10 และ B20 ราคาคงเดิม ลิตรละ 34.94 บาท ดีเซลพรีเมี่ยม B7 อยู่ที่ลิตรละ 45.66 บาท
-หุ้นไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,625.92 จุด ลดลง 10.15 จุด (-0.62%) มูลค่าการซื้อขาย 70,952.59 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากดัชนีขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว และปิดความเสี่ยงเพื่อรอติดตามการประชุมเฟดแจ็คสันโฮลในสัปดาห์หน้า อีกทั้งยังมีปัจจัยกดดันการเมืองระหว่างประเทศจากการซ้อมรบสหรัฐ-เกาหลีใต้ และ จีน-รัสเซียเข้ามาสร้างความกังวลเพิ่มเติม แนวโน้มสัปดาห์นหน้าคาดแกว่งกรอบแคบรอติดตามการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ให้แนวต้าน 1,630-1,640 จุด แนวรับ 1,610-1,620 จุด