คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย

ขณะนี้สหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศที่มีเสน่ห์พิเศษเปรียบเสมือนดั่งแม่เหล็กสามารถจะดึงดูดให้บรรดานักศึกษาจากนานาชาติทั่วโลกเดินทางเข้าไปร่ำเรียนมากที่สุด

จากรายงานของ US News & World Report ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯได้สรุปออกมาว่า จากการสำรวจในปีค.ศ. 2022 นี้ สหรัฐอเมริกา ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีสถาบันการศึกษาดีเยี่ยมที่สุดในโลก โดยมีประเทศอังกฤษอยู่ในอันดับสอง เยอรมนีอันดับสาม แคนาดาอันดับสี่ และฝรั่งเศสอยู่ในอันดับที่ห้า

และถึงแม้ว่าขณะนี้สหรัฐอเมริกายังคงต้องต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ก็ตาม แต่กลับปรากฏว่าหนุ่มสาวที่เดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกในแต่ละประเทศก็หาได้หวั่นเกรงไม่ ต่างแห่แหนหลั่งไหลทะลักเข้าสู่สหรัฐอเมริกากันอีกครั้งคราหนึ่ง!!!

โดยส่วนใหญ่หนุ่มสาวจากทั่วโลกล้วนต้องการที่จะเข้าไปศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วสหรัฐฯ ที่สถาบันการศึกษาของสหรัฐฯมีทั้งระดับขนาดใหญ่ชื่อเสียงโด่งดังราคาค่าเล่าเรียนแพงหูฉี่ เรื่อยไปจนถึงระดับวิทยาลัยชุมชนหลักสูตรอนุปริญญาที่มีราคาค่าเรียนพอสมเหตุสมผลไม่แพงจนเกินไป

เหตุผลหนึ่งที่บรรดานักศึกษานานาชาติเลือกที่จะเข้าไปศึกษาในสหรัฐอเมริกาก็คือ ชื่อเสียงและค่านิยมของบรรดาสถาบันการศึกษาเรื่อยไปจนถึงเรื่องของความโดดเด่นทางด้านเทคโนโลยี และด้านการวิจัยชั้นสูง โดยส่วนใหญ่ที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่มีที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาแทบทั้งสิ้น

ทั้งนี้มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกที่ติดอันดับหนึ่งในห้าสิบ ก็ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน

และไม่ว่าใครก็ตามต้องการที่จะเรียนในภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ด้านอัจฉริยะวิทยาศาสตร์ ด้านธุรกิจ ด้านกฎหมาย ด้านการบันเทิง ด้านนวัตกรรม ด้านสถาปัตย์ หรือด้านวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันการศึกษาในสหรัฐฯก็สามารถตอบโจทย์สนองความต้องการให้ได้ทั้งหมดทั้งสิ้น แถมหากใครมีความสามารถและมีมันสมองในระดับหัวกะทิก็ยังมีทุนการศึกษามอบให้แบบที่นักศึกษาผู้นั้นแทบจะไม่ต้องควักกระเป๋าตังค์ของตนเองจ่ายเงินเลย!!!

เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีความล้ำนำหน้าทางด้านเทคโนโลยีและด้านการวิจัยที่หลากหลาย โดยนักศึกษาในระดับปริญญาเอกสามารถมีโอกาสได้ร่วมงานวิจัยกับศาสตราจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสถาบัน MIT, UCLA, Caltech,  Georgia Tech เป็นต้น

อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่ากระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯได้จัดทำข้อตกลงร่วมกับสถาบันการศึกษานานาชาติ (The Institute of International Education (IIE) ซึ่งเป็นองค์กรเก็บข้อมูลนักศึกษาต่างชาติที่เข้าไปศึกษาในสหรัฐอเมริกาอย่างสมบูรณ์ครบครันในแต่ละปีได้ออกมาเปิดเผยล่าสุดนี้ว่าปี  การศึกษาในปี ค.ศ. 2022/2023 มีนักศึกษานานาชาติเพิ่มขึ้น ถึง 65% และจากการสำรวจของสถาบันแห่งนี้เปิดเผยออกมาว่า เมื่อปีค.ศ. 2015 มีนักศึกษานานาชาติเข้าไปศึกษาในสหรัฐฯแค่เพียง 974,900 คน แต่ระหว่างปีการศึกษา 2019-2020 นักศึกษานานาชาติได้เพิ่มเป็น 1,075,496 คนจากกว่า 200 ประเทศ โดยสหรัฐอเมริกามีมหาวิทยาลัยให้เลือกทั่วประเทศกว่า 4,500 สถาบัน

โดยสัปดาห์นี้หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลออกมาเปิดเผยว่า น่าแปลกและเป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงหกเดือนแรกของปีค.ศ. 2022 นักศึกษาจีนเดินทางเข้าสหรัฐฯลดน้อยลงอย่างมากเหลือแค่เพียง 31,055 คน เมื่อเปรียบเทียบกับ หกเดือนแรกของปี 2019 ที่มีนักศึกษามากถึง 64,261 คน ก่อนการระบาดโรคโควิด-19

หนังสือพิมพ์หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลยังได้รายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่นักศึกษาจีนเดินทางเข้าสู่สหรัฐฯลดจำนวนลงเป็นอย่างมาก อาจจะเกิดจากปัญหาด้านความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯกับจีนนั่นเอง!!!

ทั้งนี้ที่ผ่านมาสัดส่วนหนึ่งในสามของนักศึกษานานาชาติที่เดินทางเข้าไปศึกษาในสหรัฐฯมากที่สุดก็คือ นักศึกษาที่มาจากประเทศจีน อันดับสองรองลงมาได้แก่ นักศึกษาจากประเทศอินเดีย อันดับสามเกาหลีใต้ อันดับสี่ซาอุดิอาระเบีย และยังมีนักศึกษาจากแคนาดา จากไต้หวัน จากเนปาล จากญี่ปุ่น และจากไนจีเรีย ไล่เรียงมาตามลำดับ

ส่วนนักศึกษาไทยที่ไปศึกษาในสหรัฐฯอเมริกาจากที่เคยอยู่ในอันดับต้นๆแต่ขณะนี้มีอยู่ราวๆ 6,000 คนเท่านั้น

สำหรับ “มหาวิทยาลัยเพอร์ดู” ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ที่รัฐอินเดียนา และเป็นพันธมิตรทางด้านวิชาการกับ “มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่” นานร่วมสิบปี

ขณะนี้มีนักศึกษานานาชาติมากกว่า 8,900 คน มีอาจารย์ผู้สอนและมีสตาฟฟ์มากกว่า 700 คนที่มีหน้าที่คอยรับผิดชอบนักศึกษานานาชาติและสถาบันการศึกษาแห่งนี้ยังมีโครงการพิเศษสำหรับนักศึกษานานาชาติที่อ่อนภาษาอังกฤษ โดยมีโปรแกรมพิเศษสอนให้นักศึกษานานาชาติมีขีดความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น เพื่อเข้าเรียน นับว่าเป็นเอกลักษณ์พิเศษในการเสนอโปรโมชั่นดึงดูดนักศึกษานานาชาติให้เข้าไปในสถาบันของตน!!!

สำหรับรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือเป็นรัฐที่ดึงดูดนักศึกษานานาชาติมากที่สุด เนื่องจากรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นศูนย์กลางของการศึกษา เฉพาะมหาวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับTop 50 ล้วนตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย อาทิ Stanford (อันดับ 6 ของประเทศ) CalTech (อันดับ 9) UCLA (อันดับ 20)  UC Berkley (อันดับ 22)  USC (อันดับที่ 27)  UC Santa Barbara (28) (US San Diego (อับดับ 34) UC Irvine (อับดับ38), และ Pepperdine University (อันดับ 49)

อนึ่งนอกเหนือจากมหาวิทยาลัยชั้นนำชื่อดังต่างๆแล้ว สหรัฐฯก็ยังมีสถาบันการศึกษาในระดับวิทยาลัยชุมชน ซึ่งมีทั้งหมดถึง 936 สถาบัน และมีนักศึกษาในวิทยาลัยชุมชนทั่วประเทศทั้งหมดกว่า 7.7 ล้านคน

และยังถือได้อีกเช่นกันว่ารัฐแคลิฟอร์เนียให้การส่งเสริมวิทยาลัยชุมชนหลักสูตรอนุปริญญา ที่ใช้เวลาเรียนแค่เพียงสองปี โดยขณะนี้มีจำนวนนักศึกษาเข้าศึกษาในวิทยาลัยชุมชน 117 แห่งถึง 1.8 ล้านคน จากจำนวนประชากรของรัฐแคลิฟอร์เนียกว่า 40 ล้านคน

ส่วนวิทยาลัยชุมชน “Santa Monica College” หนึ่งในวิทยาลัยชุมชนที่ดีที่สุดในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซี่งมีนักศึกษานานาชาติกว่าสามพันคน โดยรัฐแคลิฟอร์เนียโอบล้อมไปด้วยมหาสมุทรแปซิฟิก มีสภาพภูมิอากาศสบายๆ ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปตลอดทั้งปี และที่ตั้งของวิทยาลัยก็สามารถเดินทางได้อย่างง่ายดายและยังมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอาทิเช่นโรงภาพยนต์ สถานที่จัดแสดงดนตรี พิพิธภัณฑ์ ตลอดจนสวนสนุกอันแสนโด่งดังเช่น Disneyland Magic Mountain และ Universal Studios

นอกเหนือจากนั้นก็ยังมี Pasadena City College ซึ่งเป็นวิทยาลัยชุมชนที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งตั้งอยู่แถบชานเมืองของนครลอสแอนเจลิส

ทั้งนี้ผู้ที่สำเร็จในระดับอนุปริญญาจากวิทยาลัยชุมชนสามารถจะนำเครดิตการศึกษาไปต่อยอดในระดับปริญญาตรีได้อีกด้วย

ขณะที่นักศึกษานานาชาติต่างกระหายต้องการจะเดินทางเข้าไปศึกษาในสหรัฐอเมริกา แต่กลับปรากฏว่า คนอเมริกันเจ้าของประเทศมิได้จบในระดับปริญญาตรีมากเท่าที่ควร ดังจะเห็นได้จากการเก็บสถิติของ Pew Research พบว่า เมื่อปี ค.ศ.2021 คนอเมริกันสี่ในสิบคน ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่มีปริญญาตรี และในปีค.ศ.2021 มีคนอเมริกันจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีแค่เพียง 37.9% เท่านั้น

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นสหรัฐอเมริกาคือจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักศึกษานานาชาติมากกว่าทุกๆประเทศในโลก ฉนั้นจึงไม่แปลกที่บรรดาสถาบันการศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆทั่วทุกแห่งของสหรัฐฯต่างกระตือรือร้นต้องการที่จะสร้างแรงดึงดูดใจอ้าแขนต้อนรับนักศึกษาจากนานาชาติ เพราะสามารถรับทรัพย์สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจำนวนมหาศาล แถมยังได้รับอานิสงค์ที่จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆจากหลายมุมมองเป็นผลข้างเคียง และเนื่องจากสหรัฐอเมริกาเปิดกว้างเป็นแหล่งแห่งโอกาส ดังนั้นนักศึกษาต่างชาติก็สามารถเก็บเกี่ยวทั้งความรู้และประสพการณ์ดีๆได้จากสหรัฐอเมริกาศูนย์การศึกษาที่ดีที่สุดในโลกละครับ