วันที่ 18 ส.ค.65 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กล่าวถึงการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 19 ส.ค.ว่า จะมีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และ รมว.สาธารณสุขได้หารือและกำหนดกรอบแนวทางไว้ คือการปรับโควิดไปเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งมีแผนงานที่ชัดเจน และตรงนี้ถือเป็นอำนาจคณะกรรมการโรคติดต่อกำหนดไว้เลย แต่ที่ผ่านมาการแก้ปัญหาโควิดเรามี ศบค. กระทรวงสาธารณสุขจึงจะนำเรื่องนี้มาแจ้งให้ที่ประชุมศบค.ทราบเผื่อจะมีข้อสังเกตและข้อแนะนำเพิ่มเติม รวมถึงจะมีการดูสถานการณ์ภาพรวมทั้งโลก รวมถึงวันที่ 19 ส.ค. นายกฯจะรับทราบถึงสถานการณ์ท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจ ตัวเลขต่างๆ ที่โตขึ้น รวมถึงจะการหารือเรื่องของแผนการกระจายยา จะมีการยกระดับให้ดีขึ้น
โดยขณะนี้ไปถึงโรงพยาบาลเอกชน และคลินิกเวชกรรม ต่อไปอาจมีการพิจารณาถึงร้านยาชั้น1 ที่จะสามารถกระจายยาโควิดให้กับประชาชนได้ภายใต้การกำกับของแพทย์ อีกส่วนหนึ่งที่จะรายงานคือแผนที่จะไปสู่โรคติดต่อไม่ร้ายแรง วันที่ 19 ส.ค. ก็เสนอให้ที่ประชุมศบค.ทราบให้เพื่อคิดเห็นเพิ่มเติม แต่ย้ำว่าเรื่องนี้ ขอให้อำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติที่สามารถพิจารณาได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าแบบนี้จะประสานให้เป็นโรคประจำถิ่นได้เลยหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ใช่ครับ วันที่ 19 ส.ค. นี้จะดูว่าอาจจะกำหนดเวลาไว้ และยังมีเวลาที่จะประเมินสถานการณ์ กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้พิจารณาจะปรับอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น
เมื่อถามว่า วันที่ 1 ต.ค. นี้ ศบค. จะถูกยุบหรือไม่ เพราะจะปรับโควิดเป็นโรคเฝ้าระวัง พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ไม่เกี่ยวกับความเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังไม่ว่าจะเป็นระดับไหนก็แล้วแต่ แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่ามีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษควบคุมและป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้าย
เมื่อถามว่าสถานการณ์โควิดที่เบาลงในบางระดับเราจำเป็นต้องใช้กฎหมายฉุกเฉินอยู่หรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่าตอนนี้ยังใช้อยู่ เราจำเป็นต้องควบคุมคนเข้าออกประเทศ เรายังจำเป็นในการกำกับหรือห้ามกระทำการสิ่งใด แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายเราจะดูแผนของกระทรวงสาธารณสุขและคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติในวันที่19 ส.ค.ว่าแผนที่ออกมานี้ยังจำเป็นต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่หรือไม่
เมื่อถามถึงข้อเสนอถึงการเปิดผับถึงตี 4 มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า การผ่อนคลายของศบค. ที่ผ่านมา ถือว่าสุดทางของหน้าที่ของศบค.แล้ว เรื่องที่เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ซึ่งถ้าจะปรับเวลาอาจจะเป็นกรณีปกติคือการแก้กฎหมายหรือกฎกระทรวง หรือจะเป็นกรณีพิเศษอะไรก็ตามต้องให้ผู้มีอำนาจหรือมีหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการไม่เกี่ยวกับศบค. แล้ว แต่ศบค.อาจมีข้อกังวล ถ้าขยายเวลาปิดไปตี 4 จะมีผลกระทบต่อชีวิตประชาชนที่เกี่ยวข้องกับโควิดแค่นั้น
เมื่อถามว่าเรื่องเปิดผับถึงตี4 จะบรรจุวาระการประชุมของศบค.ได้หรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ก็เสนอได้ แต่ศบค.ก็จะพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับความหวังดีของรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ต้องการให้เศรษฐกิจในพื้นที่ได้ฟื้นตัว แต่คิดว่าวันที่ 19 ส.ค. กระทรวงท่องเที่ยวฯคงไม่เสนอการเปิดผับถึงตี 4 เพราะการประชุม ศปก.ศบค. ในวันนี้ ทางกระทรวงท่องเที่ยวฯไม่ได้เสนอเข้าวาระ