ดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่บริเวณจุดจอดวินรถตู้รังสิต เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (16 ส.ค.65) หลังมีผู้ร้องเรียน ผ่านเฟสบุค "Survive – สายไหมต้องรอด ว่า แอดค่ะ ช่วยแฟนหนูด้วย โดนมาเฟียคุมวินรถตู้รังสิต รุมทำร้าย" ว่า บขส. ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังทราบเรื่องได้ลงพื้นที่ทันที ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจาก ผู้ประกอบการห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสบี สันติวิชช์ ทัวร์ ได้แจ้งว่า ผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทเป็นพนักงานขายตั๋ว ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสบี สันติวิชช์ ทัวร์ สาย 905 เส้นทางกรุงเทพฯ – สิงห์บุรี ชื่อว่า นายปรีชา เรืองรอด และ นายนาวี รัตนวิจาร (แฟนของผู้โพสต์) ได้ทะเลาะวิวาทกันด้วยเรื่องส่วนตัว ทางผู้ประกอบการ ได้เรียกพนักงานทั้ง 2 คน มาไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 และให้นายนาวี ออกจากการเป็นพนักงานแล้ว ทั้งนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ บขส. ตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างรอบคอบ บขส. จึงได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ และจะเรียกทั้งสองฝ่าย มาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยหากคู่กรณีมีข้อมูลเชิงลึก สามารถส่งข้อมูลมายัง บขส. เพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติมได้ โดย บขส. พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ดี บขส. ได้ลงโทษปรับผู้ประกอบการรถตู้ฐานไม่ควบคุมพนักงานในสังกัดให้ปฏิบัติตามระเบียบของบริษัทฯ เป็นเงิน 1,000 บาท

ส่วนประเด็นที่มีการนำรถตู้มาวิ่งเสริมในช่วงเทศกาล เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ นั้น ดร.สัญลักข์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ บขส. จะแจ้งให้ผู้ประกอบการที่ประสงค์นำรถเข้ามาวิ่งเสริม แจ้งมายัง บขส. เพื่อทำเรื่องขออนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่ง บขส. จะควบคุมดูแลรถตู้ ในส่วนของพื้นที่ให้บริการภายในจุดจอด หรือสถานีรถตู้เท่านั้น ตามนโยบายจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สำหรับผู้ประกอบการรถตู้ ต้องแสดงบัตรประจำรถ ซึ่งออกโดย บขส. และบัตรประจำตัวผู้ขับขี่ มาซื้อใบเวลาให้เรียบร้อยก่อน จึงจะนำรถออกวิ่งให้บริการได้ ซึ่งการออกใบเวลาจะช่วยให้ บขส. สามารถควบคุมดูแลเรื่องความปลอดภัย ทั้งพนักงานขับรถ และตัวรถ รวมทั้งป้องกันปัญหารถผิดกฎหมายได้อีกด้วย