วันที่ 16 ส.ค.65 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า...

สรุปความรู้ปัจจุบันเกี่ยวกับ Long COVID สำหรับประชาชน...

ความสำคัญ:

ภาวะผิดปกติหลังติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่เรียกว่า Long COVID นั้นเป็นเรื่องที่ทั่วโลกกังวล และส่งผลบั่นทอนคุณภาพชีวิต สมรรถนะการดำเนินชีวิตประจำวัน และการทำงาน รวมถึงเป็นภาระค่าใช้จ่ายสำหรับทั้งผู้ป่วย ครอบครัว/คนรัก/คนใกล้ชิด ที่ทำงาน และสังคม

สาเหตุ:

การติดเชื้อโรคโควิด-19 นั้น แม้รักษาระยะแรกหายแล้ว แต่ก่อให้เกิดความผิดปกติในร่างกายต่อเนื่อง โดยอาจเกิดขึ้นจาก

1. มีการติดเชื้อถาวร หรือมีชิ้นส่วนหรือสารพันธุกรรมของไวรัส ค้างอยู่ในร่างกาย (persistent infection) โดยปัจจุบันมีงานวิจัยหลายชิ้นยืนยัน

2. เกิดกระบวนการอักเสบระยะยาวเรื้อรัง (chronic inflammatory process)

3. การติดเชื้อทำให้การทำงานอวัยวะ/ระบบต่างๆ ของร่างกายผิดปกติไปจากเดิม (organ dysfunction from viral infection)

4. เกิดภูมิต่อต้านตนเอง (autoantibody) แต่ล่าสุดงานวิจัยจาก Ishikawa A มหาวิทยาลัยเยล ชี้ให้เห็นว่ากลไกนี้อาจเป็นไปได้น้อยลง

5. เกิดการเสียสมดุลของเชื้อโรคที่อาศัยอยู่ในร่างกาย และส่งผลต่อความผิดปกติของอวัยวะและระบบต่างๆ ตามมา (Dysbiosis)

อาการผิดปกติของ Long COVID:

เกิดขึ้นได้แทบทุกระบบ ตั้งแต่สมอง/ระบบประสาท ภาวะสมองฝ่อ ความจำเสื่อม คิดวิเคราะห์ลำบากกว่าปกติ ปวดหัว เวียนหัว ปัญหาการนอนหลับ และความผิดปกติทางจิต เช่น โรคซึมเศร้า เครียดวิตกกังวล อารมณ์แปรปรวน

ปัญหาหัวใจและหลอดเลือด ตั้งแต่กล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อบุหัวใจอักเสบ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจขาดเลือด หัวใจหยุดเต้น รวมถึงโรคหลอดเลือดสมอง และการอุดตันของหลอดเลือดตามที่ต่างๆ

ระบบหายใจผิดปกติ ทำให้เหนื่อยง่าย หอบ เพราะมีความผิดปกติของสมรรถนะของปอดและการแลกเปลี่ยนออกซิเจน

ระบบต่อมไร้ท่อ ได้แก่ การเกิดโรคเบาหวานในคนที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รวมถึงคนที่เคยเป็นเบาหวานมาก่อนก็อาจคุมโรคได้ยากมากขึ้น, ฮอร์โมน Cortisol ต่ำกว่าปกติ, และปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศ อารมณ์ทางเพศลดลง ปัญหาในการหลั่งอสุจิ

รวมถึงอาการทางระบบอื่น ได้แก่ อ่อนเพลียเหนื่อยล้าจนทำงานไม่ไหว ออกกำลังกายไม่ไหว ผมร่วง และอาการปวดที่ต่างๆ ตามร่างกายทั้งกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ

ต้องเผชิญกับอาการผิดปกติไปนานแค่ไหน?:

อาการผิดปกติเกิดขึ้นได้ตั้งแต่หลายเดือนไปเป็นปี หรือเป็นแบบถาวร ขึ้นอยู่กับความผิดปกติที่เกิดขึ้น

เกิดกับใครได้บ้าง?:

เกิดได้ทั้งในคนที่เคยติดเชื้อแบบไม่มีอาการ อาการน้อย หรืออาการรุนแรง

เกิดได้ทุกเพศ ทุกวัย

โดยผู้ที่ป่วยปานกลางและรุนแรงจะเสี่ยงกว่าป่วยน้อยและไม่มีอาการ, เพศหญิงเสี่ยงกว่าเพศชาย (ราว 2 เท่า), และวัยผู้ใหญ่เสี่ยงกว่าวัยเด็ก

โอกาสเกิดมากน้อยเพียงใด?:

เฉลี่ยแล้วมีโอกาสเกิดขึ้นราว 5-30⁺%

ขึ้นกับสายพันธุ์ที่ติดเชื้อ และปัจจัยต่างๆ เช่น เพศ วัย อาการป่วยที่เป็น การฉีดวัคซีน ฯลฯ

US CDC พบว่า เกิดในวัยผู้ใหญ่ได้ราว 1 ใน 5 และในวัยเด็กได้ราว 1 ใน 4

ผลวิจัยล่าสุดในเนเธอร์แลนด์ พบเฉลี่ย 1 ใน 8 แต่ไม่ได้รวมอาการสำคัญที่พบบ่อยทั่วโลกคืออาการผิดปกติทางด้านความคิดความจำ ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงกว่านั้น

ป้องกันได้ไหม?:

การฉีดวัคซีนครบตามกำหนด จะช่วยลดความเสี่ยงต่อ Long COVID ได้ราว 15%

วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ

มีวิธีรักษาไหม?:

ยังไม่มีวิธีรักษา Long COVID เฉพาะเจาะจง ปัจจุบันมีงานวิจัยทั่วโลกราว 26 โครงการที่กำลังศึกษาอยู่ แต่ต้องใช้เวลา

หากมีอาการผิดปกติจึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และทำการดูแลรักษาโรคหรืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้น

ปัจจุบันเราควรปฏิบัติตัวอย่างไรดี?:

สำหรับคนที่เคยติดเชื้อมาแล้ว ควรหมั่นประเมินสภาพร่างกายและจิตใจเป็นระยะ หากผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ ไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และระมัดระวังไม่ให้ติดเชื้อซ้ำ

รักตัวเองและครอบครัวให้มาก ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท

ไม่ติดเชื้อย่อมดีที่สุดครับ

การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก