เจ้าอาวาสวัดเกาะเสือแจงคนร้ายที่ฆ่าคนตายในวัดไม่ใช่เด็กวัดแค่ขี้เมา

เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างวงศ์หรือวัดเกาะเสือออกประกาศชี้แจงคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าชายอายุ 47ปีภายในวัดไม่ได้เป็นเด็กวัดหรือผู้ดูแลวัดตามที่กล่าวอ้าง แต่มีพฤติกรรมชอบดื่มสุราอยู่เป็นประจำ เวลาเมาชอบเข้ามาก่อกวนภายในวัดจนพระภิกษุ – สามเณรและญาติโยมของวัดเอือมระอาและมักจะแอบมานอนตามสถานที่ต่างๆภายในวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต

    จากเหตุการณ์ฆ่ากันตายภายในวัดศรีสว่างวงศ์ หรือวัดเกาะเสือ ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวานนี้โดยผู้เสียชีวิตคือ นายธรรมฤทธิ์ งามโฉม อายุ 47 ปีถูกตีด้วยไม้หน้าสามเข้าที่ศรีษะและถูกรัดคอด้วยผ้าขาวม้าลากศพไปทิ้งไว้บริเวณสวนป่าด้านหลังโรงเรียนพระปริยัติธรรม

    ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายภิญโญ (สงวนนามสกุล)​อายุ 48 ปี ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจในวันเดียวกันโดยอ้างว่าที่ทำไปเพราะได้ยินผู้ตายพูดว่าจะปล้นวัดจึงใช้ไม้หน้าสามฟากดเข้าที่ศรีษะ 3 ครั้งและใช้ผ้าขาวม้ารัดคอลากศพไปทิ้งที่สวนป่าในวัด และอ้างว่าตนทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยของวัด

    ล่าสุดในวันนี้( 15 ส.ค.65 ) ทางพระครูปลัดภูวนัย สุเมธโส เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างวงศ์ หรือวัดเกาะเสือ ได้ออกประกาศชี้แจงเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะกรณีที่ผู้ต้องหาระบุว่าตนเองเป็นเด็กวัดและผู้ดูแลความเรียบร้อยของวัดศรีสว่างวงศ์

  ตามที่มีสื่อหลายสำนักได้ออกข่าวในลักษณะที่ว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเด็กวัด,เป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในวัดนั้นไม่เป็นความจริงและทำให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงของวัดศรีสว่างวงศ์

ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ผู้ก่อเหตุไม่ได้เป็นเด็กวัดและไม่ได้รับมอบหมายให้ดูแลความเรียบร้อยภายในวัดแต่อย่างใด แต่เป็นผู้ที่มีพฤติกรรมชอบดื่มสุราอยู่เป็นประจำ เวลาเมาชอบเข้ามาก่อกวนภายในวัดจนพระภิกษุ – สามเณรและญาติโยมของวัดเอือมระอาและมักจะแอบมานอนตามสถานที่ต่างๆภายในวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางวัดจึงขอประกาศชี้แจงทำความเข้าใจข้อเท็จจริงให้ทราบโดยทั่วกัน

    ส่วนความคืบหน้าทางคดีขณะ นายภิญโญ ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่ห้องขังสภ.หาดใหญ่ เบื้องต้นได้แจ้งหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และจะนำตัวฝากขังศาลสงขลาพรุ่งนี้ ส่วนข้อหาอื่นๆเช่นการชิงทรัพย์นั้นรอให้ญาติตรวจสอบทรัพย์สินว่ามีอะไรสูญหายหรือไม่