วันที่ 10 ส.ค.65 ที่รัฐสภา นายสมชัย  ศรีสุทธิยากร โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. กล่าวภายหลังการประชุมร่วมรัฐสภา ว่า การที่องค์ประชุมไม่ครบเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เพราะกมธ.ทำงานอย่างทุ่มเทมาโดยตลอด พยายามเขียนกฎหมายให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องคำนวณหาร 100 หรือ 500 ขณะที่สภาหากไม่สามารถพิจารณากฎหมายให้ทันตามกรอบเวลามีแนวโน้มว่ากฎหมายดังกล่าวจะตกไปในวันที่ 15 ส.ค. ยกเว้นว่านายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสถา จะเห็นถึงความจำเป็นอาจมีการเรียกประชุมเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งยังคงมีอีกหลายวันในการพิจารณา จึงเป็นไปได้ที่นายชวนจะเรียกประชุมอีกครั้ง

ทั้งนี้ การที่สภาล่มจะไปโทษแต่ฝ่ายค้านอย่างเดียวไม่ได้  ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องช่วยกันรักษาองค์ประชุมด้วย ถือว่าเป็นปัญหาของทุกฝ่ายจะโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้เลย ส่วนจะเป็นพรรคใดบ้างต้องขอตรวจสอบรายชื่อก่อน เบื้องต้นพบว่ามี ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเศรษฐกิจไทย โดยขอชื่นชมพรรคการเมืองอื่นๆที่ได้ช่วยรักษาองค์ประชุมอย่างเต็มที่ ทุกพรรคการเมืองทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่เมื่อนับองค์ประชุมออกมาแล้วเสียงไม่พอ ก็ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าประชุมต่อไปไม่ได้ ซึ่งถ้าไม่ล่มก็เชื่อว่าไม่เกินเวลา 19.00 น.ก็คงจะล่มอีก

นายสมชัย กล่าวด้วยว่า การไม่แสดงตนมีผลทำให้การประชุมล่ม ซึ่งการทำให้ประชุมล่มมีผลต่อภาพลักษณ์ของสภาโดยรวม ส่วนตัวยังติดใจในเรื่องนี้  เพราะการทำให้ประชุมล่มโดยเจตนา คือการไม่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าอีก 1 สัปดาห์ขอเวลารวบรวมข้อมูล จะเดินหน้ายื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แน่นอน ทั้งนี้ ส.ส.และส.ว.ที่ยังติดใจจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญก็สามารถทำได้ด้วยการเข้าชื่อจำนวน 1 ใน 10 ของสองสภา เพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นความเห็นมาใน 10 วัน หากกกต.ไม่ตอบกลับมาถือว่าเห็นด้วยจากนั้นมีเวลาอีก 5 วันที่นายกรัฐมนตรีจะพักเรื่องไว้ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในขั้นตอนต่อไป