"รมว.แรงงาน"เตรียมชงแผนปรับค่าแรงขั้นต่ำ 5-8%  เข้า"ครม."เดือน ก.ย. เร่งให้มีผลบังคับใช้ 1 ต.ค.นี้ จากเดิมให้มีผลต้นปี 66 เผยสูตร 12 ช่วง 1-2 บาท ไม่เท่ากันทุกจังหวัด ขณะที่"กทม.-ภูเก็ต-EEC"ต้องขึ้นก่อนและสูงกว่าจังหวัดอื่น

 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 ส.ค.65 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน  ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ว่า ตนได้มอบนโยบายให้ปลัดกระทรวงแรงงานไปประชุมไตรภาคีจังหวัด ซึ่งได้มีการประชุมทุกจังหวัดแล้ว และขณะนี้ได้ตัวเลขมาหมดแล้ว โดยจะมีการเกลี่ยตัวเปอร์เซ็นต์ให้เหมาะสม ซึ่งข้อเท็จจริงตัวเลขแต่ละจังหวัดต่างกัน 1-2 บาท และแบ่งเป็นหลายช่วง กำลังปรับขึ้นให้อยู่โดยจะทำทั้งหมด 12 ช่วง ซึ่งตัวเลขจะไม่เท่ากันทุกจังหวัด และเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นพร้อมกันทุกจังหวัด เพราะจีดีพีแต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน

 นายสุชาติ กล่าวว่า ได้ให้นโยบายกับปลัดกระทรวงแรงงานไปแล้วว่าจะต้องทำให้จบภายในเดือนส.ค. และน่าจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นเดือนก.ย. จากเดิมที่วางเอาไว้ให้มีผลบังคับใช้ช่วงต้นปี 66 แต่ครั้งนี้เวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมา เราไม่ได้มีการปรับค่าแรงเลย เนื่องจากต้องแก้ปัญหาและเยียวยาประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลทำได้แต่ประคับประคองไม่ให้เลิกจ้าง

 "แต่วันนี้เป็นเวลาที่เหมาะสม นายจ้างเห็นดีเห็นงาม เพราะต้องการให้ลูกจ้างอยู่กับเขาต่อ ส่วนตัวเลขค่าแรงขั้นต่ำที่เรากำหนดอยู่ 5-8 % นั้น เรามีพื้นฐานการตั้งตัวเลขมาจากจีดีพีและภาวะเงินเฟ้อ โดยเอาจีดีพีของแต่ละจังหวัดมาบวกลบคูณหารจะสามารถตอบคำถามได้ว่าทำไมแต่ละจังหวัดได้ในปริมาณเท่านี้" 

 นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ขณะที่สถานการณ์ค่าครองชีพก็พิจารณาจากฐานเดิม ซึ่งในช่วงพื้นที่จ.ภูเก็ต พื้นที่จังหวัดในเขตเศรษฐกิจอีอีซี และพื้นที่กทม.ต้องขึ้นก่อนและสูงขึ้นไป เพราะค่าครองชีพและจีดีพีจังหวัดดังกล่าวสูง
 "เราจะเร่งรัดเพื่อนำเข้า ครม.ในเดือนก.ย.ให้ได้ ส่วนตัวอยากให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค. เพราะคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนหารือกับสภานายจ้างว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับให้ขึ้นเร็วกว่าต้นปี 66 เพราะขณะนี้สินค้าอุปโภคบริโภคมีการปรับตัวไปแล้ว อย่างไรก็ดีขอให้เชื่อมั่นว่านายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้"  นายสุชาติกล่าว

 ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำเรื่องนี้จะทำให้รัฐบาลถูกมองว่าเป็นการใช้ประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า  มองว่าเป็นเรื่องช่วงเวลามากกว่า ถ้าคิดว่าการขึ้นค่าเเรงเป็นเรื่องการเมือง คงขึ้นค่าแรง 492 บาท ตามข้อเรียกร้องของผู้นำแรงงานไปแล้ว ขอร้องอย่าเอาเรื่องค่าแรงเป็นเรื่องการเมือง เพราะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศชาติ เราไม่สามารถเอาเรื่องค่าแรงเป็นเรื่องการเมือง แต่เราปรับตามเวลาที่เหมาะสม