วันที่ 8 ส.ค.2565 เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ในพื้นที่ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง  นายวีระศักดิ์  วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ได้มอบหมายให้นางสาวเอกรัตน์ นาคาคง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วย นางสาวสุพีพร  โมรา  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอ่างทอง นายพะลิน สุทธิบุตร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอ่างทอง นายศิโรจน์ ลิขิตวรรณการ วศ.ชลประทานอ่างทอง ประชาสัมพันธ์จังหวัดอ่างทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโผงเผง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำคลองโผงเผง เพื่อเตรียมแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย พร้อมเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น


           
จากการติดตามสถานการณ์น้ำและการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันที่ 7 - 11 ส.ค.65 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทำให้มีน้ำท่าไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นจนถึงประมาณกลางเดือน ส.ค. 65 ส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำทยอยเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.20 - 0.80 เมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง 

โดยนายกรัฐมนตรีจึงได้กำชับกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เตรียมพร้อมให้เฝ้าระวังพื้นที่เฝ้าระวังป้องกัน รับมือ ลดผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังที่อาจเกิดขึ้นและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำ บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำดังกล่าวของ จ.อ่างทอง และติดตามสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. 65 เป็นต้นไป

ในการนี้ นางสาวเอกรัตน์  นาคาคง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่าสถานการณ์น้ำคลองโผงเผง พบว่า ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยังไม่วิกฤต โดยระดับน้ำในคลองโผงเผง มีความสูงอยู่ที่ 3.05 เมตร ซึ่งยังมีพื้นที่รับระดับน้ำได้อีกประมาณ 1 เมตร เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ เตรียมพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ กำลังพล ให้พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชม. และให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด หากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ สามารถติดต่อสายด่วนนิรภัย โทร. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง