เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 8 ส.ค.65 ที่เเขวงทางหลวงชนบท ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี น.ส.นางสาวธนิดา แจ้งจำรัส หรือทนายนินู พร้อมด้วย น.ส.เพ็ญสิริ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี บุตรสาวของผู้บาดเจ็บ นายธรรมโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี ผู้ขับขี่เและเป็นสามีของผู้บาดเจ็บ เดินทางเข้าพบนายสุวิชช์ รอดภัย ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนนทบุรี นายเสริมศักดิ์ จันทร์สาม ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมการส่งและจ่ายน้ำ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อยุติกรณีนางสุวินา (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 66 ปี เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เหยียบฝาท่อระบายน้ำกระเด็นมาโดนกระจกรถด้านซ้ายและถูกใบหน้าทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดวันที่ 4 ส.ค.65 เวลาประมาณ 03.00 น. บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 

นายเสริมศักดิ์ จันทร์สาม ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมการส่งและจ่ายน้ำ กล่าวว่า ทางผู้เสียหายอยากให้ทางหน่วยงานอำนวยความสะดวก แต่ทีนี้ทาง รพ.ก็มีในเรื่องของมาตรการโควิด ญาติเยี่ยมลำบาก ทางผู้เสียหายก็เสนอให้หาโรงพยาบาลให้สะดวกกว่านี้ ที่สามารถดูแลผู้บาดเจ็บได้ ตนก็จะรับเรื่องและเสนอผู้บังคับบัญชาว่าจะทำอะไรได้ขนาดไหน เท่าที่ดำเนินการไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตนทำงานมาเกือบ 40 ปี ไม่เคยเจอแตกแบบนี้ สาเหตุนี้ขอใช้เวลาในการตรวจสอบก่อนว่าเกิดจากอะไร จากการผลิต หรือติดตั้ง เบื้องต้นที่ตรวจสอบจากพนักงานที่ดูแลทางเราไม่ได้ทำการบำรุงรักษาอะไร ทางกรมทางหลวงก็ได้แจ้งมาทางการประปานครหลวง และดำเนินการเปลี่ยนฝาทันที ทางตนกับทางกรมทางหลวงก็ไม่ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บ แต่ไม่ได้เพิกเฉย เพียงแต่ไม่รู้จริงๆ พอเห็นข่าวเลยขอพบกับทางครอบครัวผู้บาดเจ็บ หลังจากนี้ก็จะทำตามกระบวนการ ต้องมีการพูดคุยกันต่อ และหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อจะดำเนินการแก้ไขในอนาคตด้วย ซึ่งสาเหตุมันจะแตกง่ายเลยคงไม่ได้ ทางประปาเรากำหนดฝาท่อรับน้ำหนักไม่เกินกำหนดคือ 25 ตัน รถบรรทุกวิ่งได้สบายอยู่แล้ว ขอเวลาในการเจรจาพูดคุยเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและถ้าหากประชาชนท่านใดมีเรื่องร้องเรียนหรือพบเห็นฝาท่อระบายน้ำชำรุด สามารถติดต่อมาได้ที่สายด่วน 1125 ตลอด 24 ชม.

นายสุวิชช์ รอดภัย ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนนทบุรี กล่าวว่า จากสาเหตุที่เกิดขึ้นเป็นส่วนรับผิดชอบของการประปานครหลวง ซึ่งได้ใช้เขตพื้นที่ของกรมทางหลวง เราได้มอบหมายให้การประปาดูแลฝาท่อตรงนั้น ในส่วนของกรมทางหลวงก็จะดูแลความเรียบร้อยของโครงการถนนเป็นหลัก มีการดูแลการรับน้ำหนัก โครงสร้าง ไฟฟ้าส่องแสงสว่างบนถนนเป็นหลัก เนื่องจากจุดนี้ไม่เคยมีเหตุผิดปกติ พอดูจากกล้องวงจรปิดจะเห็นมีรถสิบล้อวิ่งเลนขวาซึ่งมีฝาท่อของการประปานครหลวงอยู่ แนวทางแก้ไขในอนาคตทางแขวงทางหลวงได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง สาย TOT ต่างๆ ให้เข้ามาทำสรุปฝาบ่อที่อยู่บนถถนนทั้งหมด ว่ามีกี่จุด ติดตั้งใช้งานมานานหรือยัง และอายุมากกว่า 10-20 ปี จะแจ้งให้มีการเปลี่ยนใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล หากได้รับข้อมูลแล้วจะประสานต่อไป ตอนนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกระประปานครหลวง และสรุปถึงสาเหตุที่แท้จริงเพื่อหาแนวทางต่อไป การเยียวยาซึ่งเรามีระเบียบชัดเจนอยู่แล้ว หลังจากนี้จะรีบสรุปไปให้โดยเร็วที่สุด หากประชาชนท่านใดมีเรื่องร้องเรียนหรือไม่ได้รับความสะดวกสบายในการใช้ถนน สามารถโทรสายด่วนกรมทางหลวงได้ที่เบอร์  1586 ตลอด 24 ชม.

ทางด้านทนายนินู กล่าวว่า วันนี้ได้ข้อยุติคือทางกรมทางหลวง และการประปานครหลวงบางบัวทอง ได้เข้ามารับผิดชอบและเยียวยาผู้เสียหาย ทางหน่วยงานจะประชุมและสรุปว่าจะเยียวยาผู้เสียหายอย่างไร ส่วนทางทนายเป็นตัวแทนของทางครอบครัวผู้เสียหาย จะเรียกค่าเสียหายตามสิทธิ์ตามกฎหมาย ซึ่งจะเรียกในส่วนของทรัพย์ ชีวิต ร่างกาย อนามัย ทรัพย์สิน จะเรียกให้หมดทุกอย่างตามสิทธิ์ของผู้เสียหาย เรื่องการดำเนินคดีความหากผู้ใดละเมิดก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้วก็ว่ากันไป ส่วนเรื่องของฝาท่อ รถบรรทุกที่ขับรถมาทำให้ฝาท่อกระเด็น ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และมีหน่วยงานหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากนี้จะไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อนเพื่อตามคนขับ และบริษัทของรถสิบล้อให้มารับผิดชอบ ส่วนฝาท่อระบายน้ำมีอายุมากแล้ว อาจจะมีการชำรุดบ้าง ถ้าต่อไปวันข้างหน้ามีรถใหญ่ขับผ่านหลายสิบคันโอกาสที่จะผุพังบ้างก็ต้องมีบ้าง อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไข เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก 

ขณะที่ นายธรรมโรจน์  กล่าวว่า ตนอยากให้ทนายนินูช่วยดูแลเรื่องคดีความเพราะตนไว้ใจมาตลอด ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุคุณทนายก็เข้ามาช่วยดูแลเรื่องภรรยาของตน โดยหลังจากนี้ตนและครอบครัวจะขอเรียกร้องความเป็นธรรม และขอขอบคุณทนายนินูไว้ ณโอกาสนี้ด้วย