วันที่ 7 ส.ค.65 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่าได้มีแกนนำประชาชนชาวตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง นำโดย นายเชาวลิตร ร่มรื่น กำนันตำบลสำนักท้อน นายประเสริฐ แสงใหญ่ ตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงและมลพิษทางอากาศจากการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาและพวก ได้เดินทางมาพบเพื่อขอให้ช่วยเป็นธุระเรียกร้องความเป็นธรรมจากรัฐบาลกรณีโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภากระทบสิทธิของชาวบ้านกว่า 480 ครัวเรือน

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก รัฐบาลได้ผลักดันโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภารตะวันออก(EEC) เพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 โดยมอบหมายให้กองทัพเรือเป็นผู้ดำเนินการว่าจ้างให้เอกชนจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(EHIA)ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรายงาน EHIA ดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไปแล้ว เพื่อนำส่งให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในขั้นสุดท้ายต่อไป

ทั้งนี้ชาวตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จ.ระยอง พบว่า การจัดทำรายงาน EHIA ดังกล่าวมีความผิดปกติหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำแผนที่เส้นเสียงสูงสุด (NEF มากกว่า 40) ครั้งล่าสุด ที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นเสียงใหม่ ทำให้เหลือบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบที่อยู่ในเส้นเสียง NEF-40 ลดลงจากครั้งก่อน 480 ครัวเรือน เหลือเพียง 93 ครัวเรือน จึงทำให้ชาวบ้านไม่สามารถยอมรับได้กับการทำแผนที่เส้นเสียงในครั้งนี้ จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งให้มีการทบทวนการคิดคำนวนเสียใหม่ โดยให้สถาบันวิชาการที่เป็นกลางมาดำเนินการศึกษาเพื่อให้เป็นที่ยอมรับตามหลักวิชาการ

ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นชาวตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง พยายามเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้สั่งการให้มีการทบทวนเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ส.ค.65 ที่ผ่านมาก็ได้ไปยื่นเรื่องให้นาวาอากาศเอก สุชาติ อ่างทอง ประธานคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นสนามบินอู่ตะเภาได้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจพิจารณาแล้ว แต่เกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไป จึงได้รวมตัวกันมายื่นเรื่องร้องเรียนให้สมาคมองค์การพิทักษ์ณัฐธรรมนูญไทยได้ช่วยเป็นภาระในการติดตาม ตรวจสอบ และและฟ้องร้องทางศาลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านต่อไปด้วย

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ คงไม่จบลงง่าย ๆ เพราะเมื่อสืบข้อมูลเชิงลึกลงไปแล้วโครงการฯนี้มีกลิ่นไม่ค่อยดีหลายประการ จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน เพราะมีผลประโยชน์นับหมื่นล้านบาท แต่กลับมองเห็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้านเป็นเรื่องที่จะต้องลดค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างชัดเจน จำเป็นที่สมาคมฯจะต้องออกมาช่วยชาวบ้านในเรื่องนี้อย่างจริงจัง