-นายกฯห่วงใยเหตุเพลิงไหม้เม้าท์เท่นบีผับสัตหีบ สั่ง "รมว.แรงงาน" ส่งทีมเฉพาะกิจตั้งหน่วยบริการประชาชนร่วมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จุดเกิดเหตุ

-แบงก์รัฐ 6 แห่ง โชว์ผลงานครึ่งแรกปี 65 ผนึกพลังช่วยเหลือลูกค้าจากโควิด-19 รวมกว่า 6.8 ล้านราย วงเงินรวม 1.35 ล้านล้านบาท

-กกพ.เลื่อนแถลงขึ้นค่าเอฟทีงวดเดือนก.ย.-ธ.ค.65 อย่างไม่มีกำหนด ถือเป็นเป็นรอบที่ 2 แล้วภายหลังนายกฯขอให้ชะลอการขึ้นค่าเอฟที ในขณะที่บอร์ด กกพ.มีมติปรับขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.ค.65

-ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว นักลงทุนคาดหวังภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวและนโยบายทางการเงินของ FED เป็นปัจจัยหนุน ขณะที่กังวลเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศ และนโยบายขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

-เงินเฟ้อก.ค.65 เพิ่ม 7.61% ชะลอตัวลงจากเดือนมิ.ย.ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบปี เผยปัจจัยหลักมาจากน้ำมัน แม้แก๊สโซฮอล์ เบนซินจะลดลง แต่ดีเซลที่เป็นต้นทุนการผลิต การขนส่งยังคงเดิม หมวดอาหารทั้งไก่ พริกสด ต้นหอม เครื่องประกอบอาหาร อาหารสำเร็จรูปยังเพิ่มขึ้น พร้อมปรับเป้าเงินเฟ้อปีนี้ใหม่เป็น 5.5-6.5%

-สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง(ทองคำ 96.5%) ในประเทศเปิดตลาดเมื่อเวลา 09.22 น.ราคาทองลง 50 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่บาทละ 30,200 บาท ขายออก 30,300 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณรับซื้ออยู่ที่บาทละ 29,652.96 บาท ขายออกที่ราคา 30,800 บาท ส่วนราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot อยู่ที่ 1,790.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

-ผู้ค้าน้ำมันปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 0.80 บาท/ลิตร และปรับลดพรีเมี่ยมดีเซล B7 ลง 1.00 บาท/ลิตร นอกนั้นคงเดิม มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.65) เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในพื้นที่กรุงเทพฯที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่นวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 44.86 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 37.45 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 37.18 บาท, E20 ลิตรละ 36.34 บาท และ E85 ลิตรละ 32.94 บาท ส่วนน้ำมันดีเซล B7, B10 และ B20 ราคาคงเดิม ลิตรละ 34.94 บาท ไฮพรีเมียม ดีเซล B7 (BCP) และซูเปอร์พาวเวอร์ ดีเซล B7 (OR) อยู่ที่ลิตรละ 46.16 บาท

-หุ้นไทยปิด 1,601.09 จุด เพิ่มขึ้น 2.34 จุด (+0.15%) มูลค่าการซื้อขายราว 58,838.20 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวทรงตัว โดยมีแรงขายพลังงานต้นน้ำจากราคาน้ำมันร่วง แต่ก็มีแรงหนุนจากลุ่มแบงก์และค้าปลีก แม้เงินเฟ้อไทย เดือนก.ค.จะต่ำกว่าเดือนก่อน แต่ Core CPI กลับสูงกว่า ทำให้ทิศทางไม่ชัดเจน โดยยังคาดว่า กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 10 ส.ค.แนวโน้มตลาดวันจันทร์หน้า รอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานคืนนี้ และสถานการณ์จีนซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน หากไม่มีเหตุการณ์ตลาดน่าจะปรับขึ้น พร้อมให้แนวต้านที่ 1,605-1,610 จุด แนวรับที่ 1,585-1,590 จุด