สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการไต้หวัน โดยนายกรัฐมนตรีซู เจิ้งชาง ออกมาประณามต่อจีนแผ่นดินใหญ่ว่าเป็น “เพื่อนบ้านชั่วร้าย” จากการที่ซ้อมรบโดยใช้กระสุนจริงถึง 6 จุด และยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามเกาะไต้หวัน โดยรุกล้ำน่านฟ้าของไต้หวันด้วย ก่อนไปตกทะเลอีกฟากหนึ่งของเกาะไต้หวัน เข้าไปในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น ถึง 5 ลูก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น

รายงานข่าวเผยว่า การซ้อมรบด้วยกระสุนจริง และการยิงขีปนาวุธดังกล่าว มีขึ้นโดยทางการจีน เพื่อตอบโต้ต่อการที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน เมื่อช่วงกลางสัปดาห์นี้

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีชู เจิ้งชาง ยังระบุด้วยว่า จีนกำลังทำลายเส้นทางทางน้ำที่มีการใช้งานมากที่สุดในโลกตามอำเภอใจด้วยการซ้อมรบ รวมถึงการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามเกาะไต้หวัน

ขณะที่ ปฏิกริยาจากองค์การระหว่างและประเทศต่างๆ เกี่ยวกับการซ้อมรบ และการยิงขีปนาวุธของจีน ปรากฏว่า กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ กอปรด้วย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประณามต่อจีนที่ซ้อมรบด้วยกระสุนจริง และยิงขีปนาวุธ อย่างขาดความรับผิดชอบ

เช่นเดียวกับสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ซึ่งกำลังมีการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของชาติสมาชิก ก็ออกแถลงการณ์ประณามต่อการซ้อมรบและการยิงขีปนาวุธดังกล่าวของจีนด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ การซ้อมรบและการยิงขีปนาวุธข้างต้น ยังส่งผลกระทบต่อการบินพาณิชย์ และการเดินเรือ ที่ใช้เส้นทางเรือในน่านน้ำใกล้กับไต้หวันอีกด้วย

ทางด้าน ทางการสหรัฐฯ โดยทำเนียบขาว ได้ออกมาประณามจีนว่า ดำเนินการซ้อมรบและยิงขีปนาวุธอย่างไร้เหตุผล

ด้านทางการญี่ปุ่น ก็ได้ประณามจีน ที่ซ้อมรบและยิงขีปนาวุธข้ามเกาะไต้หวัน ไปตกในน่านน้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น จำนวนอย่างน้อย 5 ลูก และขีปนาวุธอีก 9 ลูก ยิงมายังดินแดนของญี่ปุ่น ซึ่งทางการญี่ปุ่นขอยื่นประท้วงทางการทูตจากการกระทำดังกล่าวของจีน