รวบแล้วแล้วมือยิงพ่อค้าไก่อบฟางรัวกระสุนใส่อริดับสยอง สารภาพขัดแย้งกันมาก่อน ก่อนขับรถเฉี่ยวกันแต่ตกลงไม่รู้เรื่องจึงบุกตามยิงใส่ไม่ยั้ง โดยหลังแถลงข่าวจบภรรยาผู้ตายเดินยกมือไหว้วอนผู้การนครปฐม ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดหวั่นลอยนวล
วันที่ 1 ส.ค.65 ที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.สุรชัย สุกใส รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ณฐพงศ์ มุกดาหาญ ผกก.สภ.นครชัยศรี พร้อมชุดคลี่คลายคดี ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7ได้ร่วมกันแลงข่าวจับกุมคนร้ายก่อเหตุกระหน่ำยิงพ่อค้าไก่อบฟาง ในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี
โดยการแถลงผลการจับกุม เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายนายประยงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.251/2565 ลงวันที่ 25 ก.ค.65 ฐาน ความผิดฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และมิใช่กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ พร้อมของกลาง อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ Glock ขนาด 9 มม. 1 กระบอก แม็กกาซีน สีดำ ขนาด 9 มม.1 อัน กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 16 นัด ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 10 ปลอก หัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 4 นัด ซองพกปืนแบบหนังสีดำ จำนวน 1 ซอง กางเกงยีนส์ขายาวสีฟ้า เสื้อโปโลลายขวาง สีแดงดำ ผ้ากันเปื้อน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีเขียวที่ขี่ไปก่อเหตุ รถ จยย.ฮอนด้าเวฟสีแดง ที่ใช้ขี่หลบหนีไปซ่อนตัว โดยเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 9 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม
ซึ่งมีญาติคนตาย และชาวบ้านเดินทางมาที่หน้า สภ.นครชัยศรีจำนวนมาก ทาง พ.ต.อ.ณฐพงศ์ มุกดาหาญ ผกก.สภ.นครชัยศรี จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ กว่า 20 นายมาดูแลความปลอดภัย
จากเหตุการณ์วันที่ 25 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกัน บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งใน ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยมีนายธรรมรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ถูกยิงจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี ได้ดำเนินการสืบสวนจนสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายประยงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ได้ใช้อาวุธปืนยิง นายธรรมรัตน์ เมื่อก่อเหตุเสร็จได้หลบหนีไป จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานนำส่งพนักงาน สอบสวน สภ.นครชัยศรี เพื่อดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหา
และวันที่ 31 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี สืบทราบว่า นายประยงค์ ได้หลบหนีไปพัก อาศัยอยู่ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ใน ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม จึงได้แสดงหมายจับและจับกุมตัวนายประยงค์ และได้ทำการตรวจค้นห้องเช่า พบของกางอาวุธปืนและกระสุนปืน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบ นำผู้ต้องหาส่งพนักงาน สอบสวน สภ.นครชัยศรี เพื่อดำเนินการต่อไป
เบื้องต้นทราบว่าทั้งผู้ต้องหาและผู้ตายมีปัญหาเขม่นหน้ากันหลายครั้งและเรื่องรถเฉี่ยวชนกัน จนช่วงเช้ามือวันเกิดเหตุทั้งคู่มาเจอกันที่ปั้มน้ำมันแยก ไฟแดงสาย 8 และมีปากเสียงกระทบกระทั่งกันรุนแรง จนผู้ต้องหาตามมาเรียกที่หน้าบ้านผู้ตายและยิงผู้ตายกว่า 10 นัดจนเสียชีวิต
พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เผยว่า สำหรับอาวุธปืนของนายประยงค์นั้น เป็นของนายประยงค์ มีตั้งแต่ในอดีตที่เคยเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 7 จะนำอาวุธปืนของกลางไปตรวจสอบว่าเคยมีประวัติก่อเหตุที่ใดมาหรือไม่
ขณะเดียวกันในช่วงที่มีการแถลงข่าวนั้น ชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงญาติของผู้ตายได้เดินทางมาดูการแถลงข่าวครั้งนี้จำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยดูแลเป็นพิเศษเพราะกลัวเกิดเหตุรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ ภรรยาของนายธรรมรัตน์ ผู้ตาย ได้มาขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ด้วย โดยร้องขอให้ดูแลเรื่องคดีอย่างตรงไปตรงมา หากยังมีใครที่อยู่เบื้องหลังหรือให้การช่วยเหลือขอให้ตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกวันนี้ครอบครัวอยู่ด้วยความหวาดระแวงและยังเสียใจที่สามีต้องมาเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่มีการแถลงข่าวจบ ภรรยา ผู้ตาย ได้เดินผ่าวงล้อมนักข่าว ร้องไห้ยกมือไหว้ เข้ามาพบกับ พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม และได้ขอร้องให้ทางเจ้าหน้าที่สืบหาคนที่ให้การช่วยเหลือหรือเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่ยิงสามีตนเองจนเสียชีวิต อยากให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด ซึ่งพล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้รับปากและชี้แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ทำงายกันอย่างเต็มที่ตั้งแต่วันเกิดเหตุโดยตนเองได้ลงไปที่เกิดเหตุและประชุมติดตามคดีทุกวันจนจับผู้ต้องหาได้ ขอให้มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่