วันที่ 29 ก.ค.65 นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยกรณีการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติสงครามรัสเซีย ยูเครน ว่า ทางกรมปศุสัตว์มีแผนส่งเสริมให้เกษตรกรและผู้ประกอบการหันมาใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ภายในประเทศ ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งทางกรมปศุสัตว์ได้มีการสนับสนุนสูตรการผลิตอาหารสัตว์ที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศ อย่างข้าวและมันสำปะหลัง เพื่อทดแทนการนำเข้าข้าวโพดและข้าวสาลีจากประเทศรัสเซีย ยูเครน พร้อมเผยแพร่สูตรอาหารสัตว์ 90 สูตรที่มีความเหมาะสมกับแต่ละจังหวัด ที่สามารถหาวัตถุดิบแหล่งพลังงานในท้องถิ่นได้ เช่น การใช้ข้าวกะเทาะเปลือก หรือมันสำปะหลัง ในสูตรอาหารเพื่อทดแทนข้าวโพดและข้าวสาลี ในสูตรอาหารสุกรได้ 100% และสูตรอาหารไก่ได้ 35% เป็นต้น โดยเกษตรกรสามารถเรียนรู้สูตรอาหารสัตว์นี้ผ่านสื่อออนไลน์ของกรมปศุสัตว์

นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดหน่วยบริการจัดการอาหารสัตว์เคลื่อนที่ “Feeding Management Mobile Unit (FMMU)” ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการที่ฟาร์มเกษตรกร โดยให้คำแนะนำการจัดการด้านอาหารสัตว์ ปรับสูตรอาหารสัตว์รายฟาร์มตามชนิดและวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เพื่อการจัดการอาหารสัตว์ที่มีความแม่นยำ (precision feeding) ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้ประมาณ 1-2 บาท/กิโลกรัม โดยขอรับบริการได้ที่สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ และศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงได้เปิดศูนย์บริการเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ด้านปศุสัตว์ (Motor Pool) ถือเป็นนวัตกรรมการบริการเครื่องจักรกลอาหารสัตว์ ที่ให้การสนับสนุนเครื่องจักรกลแก่กลุ่มเกษตรกรเพื่อยืมใช้สำหรับการผลิตเสบียงสัตว์ ช่วยลดภาระในการลงุทนซื้อเครื่องจักรกลของตนเอง ลดภาระงบประมาณของรัฐบาลในการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรที่มีอาชีพปศุสัตว์ในระยะยาว ช่วยลดต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ โดยเพิ่มการนำวัสดุเหลือใช้ในแปลงไร่นามาเป็นอาหารสัตว์ เช่น ฟางข้าว สามารถช่วยลดการเผาตอซังและช่วยลดการเพิ่มฝุ่น PM 2.5 ในอากาศ และช่วยเพิ่มการสำรองเสบียงสัตว์เพื่อความมั่นคงทางด้านอาหารสัตว์ (Feed security) ใช้รองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม ตลอดจนทดแทนการขาดแรงงานภาคเกษตรที่นับวันจะลดลงและเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

ในส่วนของการส่งเสริม และสนับสนุนเกษตรกรด้านพืชอาหารสัตว์ ได้มีโครงการ “พัฒนาอาชีพผลิตพืชอาหารสัตว์” ให้เกษตรกรทำเป็นอาชีพโดยการผลิตพืชอาหารสัตว์จำหน่าย ในรูปแบบหญ้าสด หญ้าหมัก หญ้าแห้ง และเมล็ดพันธุ์  สร้างรายได้ที่มั่นคง ปัจจุบันมีกลุ่มเกษตรกรผลิตเพื่อจำหน่าย 133 กลุ่ม  2,100 ราย  23,000 ไร่  รายได้ 380,000 บาท/ราย/ปี ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้มีการสำรองเสบียงสัตว์ ตามโครงการ “หญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน” เพื่อผลิตเสบียงสัตว์ ได้แก่ หญ้าแห้ง หญ้าหมัก และอาหารทีเอ็มอาร์ จำนวน 6,720,000 กิโลกรัม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ที่ประสบภัยพิบัติ โดยได้สนับสนุนเกษตรกร 23,000 รายต่อปี