วันที่ 28 ก.ค.65 ที่สภ.เบตง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ประธานกรรมการประเมินโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ระยะที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ของ ชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญท., คณะกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มาตรวจ สภ.เบตง ซึ่งเป็น สภ.ที่ได้อันดับที่ 1 ของ ภ.9 พบ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันทร์ดี รอง ผบช.ภ.9 พร้อมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตง จว.ยะลา ได้บรรยายสรุปผลสำเร็จในการดำเนินโครงการฯ และสาธิตการปฏิบัติที่สำคัญในโครงการฯ
โดยมีข้อราชการที่สำคัญสั่งการดังนี้1. โครงการ Smart Safety Zone 4.0 ถือเป็นโครงการอย่างเป็นทางการโครงการแรกและเป็นนโยบายหลักของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เนื่องจากที่ผ่านมาตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่ ตร. เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบนั้น ตกเกณฑ์การประเมินทุกปี ทั้งด้านความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมของประชาชน และด้านความพึงพอใจและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการปฏิบัติงานของตำรวจ ผบ.ตร.จึงมีนโยบายที่จะให้มีการจัดทำ People Poll เพื่อประเมินผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทุกเดือน โดย8นำโครงการ Smart Safety Zone 4.0 และนวัตกรรมต่าง ๆ มาเป็นเครื่องมือในการดูแลชุมชนและสังคม เข้ามาช่วยในการทำงานด้านการป้องกันอาชญากรรมที่จะทำให้พื้นที่ปลอดภัย ซึ่งจะให้ความสำคัญที่จุดแตกหักในพื้นที่ คือ สถานีตำรวจ 2. โครงการนี้เป็นโครงการที่สร้างภาพลักษณ์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มภาพบวก ก็ขอให้ดำเนินการให้เต็มกำลังความสามารถ 3. ทุกพื้นที่ ทั้งในพื้นที่ Smart Safety Zone และนอกจากพื้นที่ Smart Safety Zone ก็ต้องปลอดภัยเช่นเดียวกัน งานอื่นในความรับผิดชอบก็ต้องไม่ให้เสียหาย 4. กำชับว่าสถานีตำรวจคือจุดแตกหักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีประชาชนคนไหนเดินเข้าไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าประชาชนเขาเดือดร้อน เขาจะไปแจ้งความขอความช่วยเหลือที่สถานีตำรวจเป็นลำดับแรก ดังนั้น ภาพลักษณ์หน้าตาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย่อมอยู่ที่สถานีตำรวจ
ส่วน 5. เน้นย้ำการขอความร่วมมือประชาชนในการเชื่อมโยงกล้องประชาชนภาคเอกชน มายัง CCOC ซึ่งเป็นการเพิ่มกล้อง CCTV โดยไม่ต้องลงทุน แต่ ผกก.หน.สน./สภ. ต้องไปลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชนโดยตรง จัดการประชุมทำความเข้าใจและเชิญประชาชน กลุ่มผู้ประกอบการต่าง ๆ ชมการทำงานของห้อง CCOC ให้ประชาชนได้เห็นภาพ ได้เข้าใจการทำงานยุคใหม่ของตำรวจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าจะไม่นำภาพไปทำอะไรเสียหาย 6. การประชุมภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ หรือ BIG 6 ต้องจัดประชุมเป็นประจำทุกเดือน และในการประชุมต้องเกิดประโยชน์ ต้องมีสาระสำคัญของการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ร่วมกัน และมีความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรม 7. ดึงความร่วมมือของอาสาสมัครตำรวจบ้านร่วมตรวจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น ตำรวจ 1 อาสา 1 หรือตำรวจ 1 อาสา 2 เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่