วันที่ 28 ก.ค.65 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์ สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ข้อมูลผ่านทางเฟซบุ๊กธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า...

สามประสาน วินัย-ยารักษาเร็ว-วัคซีน

หมอดื้อ

วัคซีนไม่ใช่คำตอบเดียว จาก Imperial Collegeในวารสาร Science เดือนมิถุนายน และรายงานอื่นๆ จนปัจจุบัน

สำคัญมากครับ ทั้ง T และ B cell ในคนได้วัคซีนสามเข็ม หรือ ได้วัคซีนบวกติดเชื้อด้วยโควิดสายเก่งต่างๆ (variant of concern) มาก่อน เมื่อมีการติดโอไมครอนกลับมีการตอบสนองที่ลดลงไปต่อโอไมครอน เมื่อเทียบกับ

สายอื่นๆ

และอธิบายว่าเมื่อมีการติดโอไมครอนที่เป็นการติดเชื้อตามธรรมชาติ โอไมครอนไม่ได้ปฏิบัติเป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างที่หวังจะให้เป็น แบบตัวกระตุ้นผสมกับวัคซีน ที่เรียกว่า ไฮบริด

และวัคซีนที่ฉีดไปทั้ง 3 เข็ม รวมทั้ง mRNA gen ใหม่ ที่มี

omicron spike ก็ได้ผลแบบเดียวกันคือ กลับลดลงต่อโอไมครอน แต่กลับไปเพิ่มภูมิต่อโควิดสายเดิม ทั้ง อู๋ฮั่น แอลฟา เดลต้า ตามที่มีพิมพ์เขียวอยู่

ทั้งนี้ แสดงว่าepitopes ของ T และ B ที่วัคซีน รุ่นใหม่จะดีหรือไม่อาจจะต้องอยู่นอก spike/RBD หรือขึ้นกับ Conformational epitopes ระหว่างการติดเชื้อของ โอไมครอนหรือไม่ ตามที่คณะผู้วิจัยวิเคราะห์

ปรากฎการณ์นี้ เรียกว่า hybrid immune damping

ผลกระทบก็คือไม่ว่าฉีดวัคซีน หรือไม่ว่าติดโอไมครอนไปแล้วหรือ ฉีดและติดไปแล้ว ติด

โอไมครอนใหม่ซ้ำซากได้ และหมายความว่าลองโควิดที่จะเจอจะมากขึ้นเรื่อยๆจากการติดเชื้อซ้ำๆ แม้ว่ารายงานระยะแรกในปี 2565 โอไมครอนดูเหมือนจะเกิดลองโควิดน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม การฉีดครบสามเข็มด้วย

PZ หรือ MDN / AZ AZ และ เข็มสาม PZ หรือ MDN ยังเป็นสิ่งจำเป็น ที่ช่วยลดอาการหนักหรือลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต

สำหรับวัคซีนเข็มสี่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีคำแนะนำ

เข็มสี่ มีประโยชน์สำหรับคนที่อายุ 80 หรือสูงวัยที่มีโรคประจำตัว (การศึกษาอายุเกิน 60 ขึ้นไปโดยเฉลี่ยอายุ 80 ปี) ด้งรายงานจาก ต่างประเทศ

การใช้เข็มสี่ที่เป็น bivalent (mRNAเดิมผสมโอไมครอน 1/2) ในสถานการณ์ โอไมครอน BA 4/5 รวมกระทั่งถึงการใช้วัคซีนที่เป็นโอไมครอน BA4/5

เกรงกันว่าภายในเดือนกันยายนหรือตุลาคม โอไมครอนอาจจะหนีออกไปอีก รวมกระทั่งมีวาเรียนท์สายย่อยอื่นออกมา ที่สามารถหนีทั้งในการป้องกันการติดเชื้อ

แม้ว่าความดี ของการลดอาการหนักอาจจะยังคงอยู่จากการฉีดวัคซีนที่ผ่านมารวมทั้งการติดเชื้อด้วย โดยที่ไม่ได้ออกฤทธิ์แบบเฉพาะเจาะจงต่อโควิดตัวใดตัวหนึ่ง และเป็นการออกฤทธิ์แบบ เฉียบไวเฉียบพลัน (ระบบinnate )

ด้วยความเก่งกาจของโควิดและข้อจำกัดของวัคซีน ดังนั้นวัคซีนคงไม่ใช่คำตอบเดียว แต่ต้องเป็นการร่วมประสานวินัยของพวกเราเอง และยาที่ใช้รักษาต้องสามารถเข้าถึงได้เร็วที่สุดเพื่อยุติกระบวนการติดเชื้อและทำให้อาการสงบเร็วไม่แพร่เชื้อต่อ และอาจลด ลองโควิด และวัคซีน

ภาคบังค้บ 3 เข็ม (มากกว่านั้นตามความสมัครใจ)