วันที่ 27 ก.ค.65 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 19) ความว่า ..

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินคราวที่ 18 ออกไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 นั้น โดยที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้กลับมาระบาดรุนแรงมากขึ้นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย

เนื่องจากได้เกิดการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งระบาดได้เร็วขึ้น และหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น ประกอบกับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นยังไม่ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง แม้จะเร่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากไม่ควบคุมการระบาดของโรคอย่างใกล้ชิด สถานการณ์การระบาดในประเทศไทยอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงปลายของไตรมาสที่สามของปี 2563

ประกอบกับองค์การอนามัยโลกยังคงระดับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคระบาดใหญ่ ดังนั้น กรณีจึงยังคงมีความจำเป็นจะต้องดำรงไว้ซึ่งมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แบบบูรณาการเพื่อควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่ง

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 จึงให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง สำหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปควบคู่กัน

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565 จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565


ประกาศ ณ วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี