คืบหน้าจากกรณีนายเสน่ห์ หรือ แบงค์ อายุ 29 ปี เผาบ้านเลขที่ 14 หมู่ 15 บ้านปอพาน ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของตัวเอง เหตุจากคลั่งยาหนัก ขอเงินยายและญาติพี่น้องไม่ได้จึงอาละวาดคลั่งจนเผาบ้านวอดทั้งหลัง ขณะเดียวกันนายเสกน อายุ 55 ปี และนางสุพรร อายุ 52 สองสามีพ่อค้าขายเสื้อผ้ามือสองตามตลาดนัดรู้ข่าวไฟไหม้บ้านรีบขับรถเก็บกระเป๋าจากจ.เชียงราย กลับบ้านที่อ.บ้านดุงทันที
วันที่ 23 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานต่อ ว่านายเสกน เล่าวว่า บ้านหลังนี้ตนและภรรยาเก็บเงินทีละเล็กทีละน้อยสะสมมาสร้างบ้านจริง กว่าจะได้บ้านหลังงามแบบนี้ ใช้เวลากว่า 25 ปีถึงสร้างเสร็จแบบนี้ สาเหตุที่เราใช้เวลานานในการสร้างบ้านเพราะไม่มีเงินก้อนไปค้าขายได้ทีละนิดทีละหน่อยค่อยมาสร้างและต่อเติมไปเรื่อยๆจนเสร็จ ดีใจอีกไม่ถึงปีก็จะหมดหนี้รถยนต์ จะได้มาพักผ่อนหรือค้าขายอยู่บ้าน แต่พอรู้ข่าวลูกชายเผาบ้านได้ยินครั้งแรกเข่าทรุดเลย ขับรถกลับบ้านทั้งตนเองและภรรยาร้องไห้ตลอดทาง
ทั้งนี้ตนเอง ยอมรับว่าลูกชายติดยาจริงเพิ่งมาเป็นหนักเมื่อ 1ปีที่ผ่านมา แต่ก่อนก็พาไปขายของด้วยตลอด เคยทะเลาะและดุด่าให้ลูกชายตลอดแต่ก็ห้ามไม่ได้ ตนเองอยากเอาลูกชายไปรักษาเพราะแต่ก่อนเขาก็ทำงานเก่งขยันขันแข็งเอาการเอางาน แต่มาเสียคนเพราะยาบ้า
นายเสกน เผยอีกว่า เรื่องคดีความคงไม่ดำเนินคดีลูกชายแน่นอนจะดีจะชั่วก็ลูกผมเหมือนเดิม ผมมีลูกชายคนเดียว คนอื่นว่าเหม็นผมก็ว่าหอม ในเมื่อลูกเผาบ้านไหม้ไปแล้วก็หาเงินมาสร้างใหม่
ต่อมา นายสามารถ หมั่นนอกิพร้อมด้วยนางปราณี บุรีเพีย นายก อบต.บ้านดุง นายวีระพล รักษ์เสมอวงศ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุง เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวสองสามีภรรยาที่ลูกชายคลั่งเผาบ้าน มอบเงินช่วยเหลือและถุงยังชีพ และทางอบต.จะได้ช่วยเหลือสร้างบ้านในโอกาสต่อไป