นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ หรือ หมอเฉลิมชัย รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" ระบุข้อความว่า... ข่าวดี !! คลินิกกว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ สามารถจ่ายยาต้านไวรัส Molnupiravir (โมลนูพิราเวียร์) ได้แล้ว ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

จากสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน ที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่าวันละ 20,000 ราย แม้จะเป็นผู้ที่มีอาการจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นจำนวนน้อย แต่ก็มีผู้ติดเชื้อกลุ่มเสี่ยงที่เริ่มต้นด้วยอาการน้อย แต่อาจจะพัฒนาจนป่วยหนักได้ ทำให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว อาจมีความจำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัส เช่น Molnupiravir

แต่ในปัจจุบันนี้ ผู้ติดเชื้อจะต้องไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชนเท่านั้น ทำให้เกิดความไม่สะดวก เพราะเมื่อตรวจรักษาและรับยาเสร็จแล้ว ก็กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน ไม่ได้นอนโรงพยาบาล


ขณะนี้ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุผล ในการเข้าถึงยาต้านไวรัสได้สะดวกขึ้นในระดับคลินิกดังนี้

อย.จะออกประกาศให้มีการกระจายยาต้านไวรัสลงไปในระดับคลินิกได้ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ จะมีประกาศออกมา ซึ่งสบส.จะแจ้งคลินิกทั่วประเทศให้ทราบถึงประกาศดังกล่าว คลินิกต่างๆ จะสามารถสั่งซื้อยาต้านไวรัส Molnupiravir ผ่านทางองค์การเภสัชกรรม หรือบริษัทเอกชน ซึ่งขณะนี้มีอย่างน้อย 3 แห่ง จะยังไม่ขยายการจำหน่ายยาดังกล่าวไปที่ร้านขายยา ทั้งนี้เนื่องจากว่า ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อทุกรายจะต้องใช้ยาต้านไวรัส จำเป็นที่จะต้องให้แพทย์สั่งตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

โดยผู้ที่จะได้รับยาต้านไวรัสคือ ผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการปานกลางขึ้นไป หรือมีเอกซเรย์พบปอดอักเสบ แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่ม 608 แม้มีอาการน้อย แต่ถ้ามีความจำเป็น ก็สามารถรับยาต้านไวรัสได้ การที่สามารถไปรับยาได้จากคลินิก เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่จะทำให้ลดความแออัดคับคั่งของการเข้ารับการตรวจรักษาเพื่อรับยาต้านไวรัสดังกล่าวในโรงพยาบาล

ส่วนเรื่องราคายา Molnupiravir ที่แตกต่างกันระหว่างของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็เนื่องมาจากนโยบายของบริษัทฯ ที่ผลิตยา

กำหนดให้ประเทศรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางขั้นต่ำ ไม่ต้องจ่ายค่าสิทธิบัตรยา ราคาจึงถูกกว่าประเทศรายได้ปานกลางขั้นสูง (ซึ่งรวมประเทศไทย) และประเทศรายได้ขั้นสูง ซึ่งจะมีราคายาสูงกว่าหลายเท่าตัว ในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อยู่ในกลุ่มต้องซื้อยาแพงด้วยกัน

ส่วนกัมพูชา ลาว เวียดนาม อยู่ในกลุ่มที่ยามีราคาถูก เช่นเดียวกับอินเดีย และประเทศในทวีปแอฟริกา

ขอขอบคุณที่มา blockdit : ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย