สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วารสาร “เซลล์ รีพอร์ตส เมดิซีน” เผยแพร่ผลการทดลองทางคลินิก ภายใต้สนับสนุนโดยสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอ็นไอเอไอดี ระบุว่า ถึงแม้การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เข็มกระตุ้น หรือบูสเตอร์ จะช่วยทำให้ร่างกายมีแอนติบอดีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้ในระดับสูง แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไปราว 3 เดือน หลังจากที่ฉีดไปแล้ว ระดับแอนติบอดีจะลดลงอย่างมาก

โดยทางคณะผู้ศึกษาวิจัย เปิดเผยว่า การทดลองข้างต้น ดำเนินการในแบบผสมผสานและจับคู่ ก่อนที่จะประเมินการตอบสนองของภูมิคุ้มกันเมื่อเวลาผ่านพ้นไปในระยะต่างๆ

พร้อมกันนี้ ทางคณะผู้วิจัย ยังระบุด้วยว่า วัคซีนเข็มบูสเตอร์ที่ฉีดให้แก่กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ สามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ชนิด “บีเอ.1” ได้ในระดับสูง แต่หลังจากฉีดไปแล้วราว 3 เดือน ภูมิคุ้มกันจะลดลงมา 2.5 – 5 เท่า สำหรับการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนดังกล่าว