วันที่ 21 ก.ค.65 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คนต่อเป็นวันที่สาม ต่อเวลา 09.20 น.นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย วันนี้เป็นเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ล้วนๆ ท่านต้องมาฟังการอภิปราย ส่วนจะฟังอยู่ตรงไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ปกติตนพูดทีไรนายกฯก็อยู่ทุกที แต่ครั้งนี้อาจจะมีภารกิจก็ไม่ว่ากัน ซึ่งอย่างน้อยมีครม.มาร่วมรับฟังก็ยังดี วันนี้คนที่เป็นตำรวจต้องฟังทั้งที่อยู่ในหน้าที่และไม่อยู่ในหน้าที่ เพราะต้องปกป้องรักษาองค์กรตำรวจให้มีศักดิ์ศรีและเกียรติยศ ไม่ใช่คนที่ทำอะไรอยู่แล้วก็ไปทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่ตัวเองพูด กรณีพล.อ.ประยุทธ์ อีกไม่กี่เดือนก็จะ 8 ปี จากการยึดอำนาจและกระบวนการเลือกตั้งที่ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่หนัก ท่านลุแก่อำนาจช่วยเหลือบุคคลที่แวดล้อมที่ทำหน้าที่ให้ท่าน สร้างความเหลื่อมล้ำ สร้างบาดแผลให้กับลูกหลาน 

นายสมคิด กล่าวว่า นายกฯพล.อ.ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ถือเป็นผู้มีอำนาจสุงสุด ซึ่งต้องย้อนไปว่าสตช.ใช้งบประมาณปกติไม่มีอะไรอื่นใด แต่มีหนังสือเวียนของพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เรื่องงบประมาณและเรื่องต่างๆ ในการดูแลสตช. แต่นายกฯไม่คำนึงถึงผู้คนตกงานหรือบัณฑิตจบใหม่ที่ไม่มีงานทำ แต่มีคนบางกลุ่มที่ใช้เส้นสายผ่านสตช. เอาคนเข้ามาดำรงตำแหน่งมาได้หลายวิธี ทราบมาว่า มีลูกชาย ลูกสาว นักการเมืองคนหนึ่งที่ติดกับพล.อ.ประยุทธ์ เรียกว่าจะเป็นจะตายแทนกันได้เอาลูกเข้าตำรวจ เป็นคนอื่นตนไม่เอะใจ เพราะก่อนหน้ามีการนำลูกอดีตผบ.ตร.เข้าเป็นตำรวจ ลูกคนเป็นลูกตำรวจยังพอทำใจได้

นายสมคิด กล่าวว่า เรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ จัดการให้คนหนึ่ง แต่ก่อนชื่อนายสุภรณ์ ตอนหลังเรียนสูงขึ้นเป็นด็อกเตอร์  ชื่อนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรมต.ประจำนายกฯ ซึ่งไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นเงาตามตัว มีข่าวว่าถึงขนาดจุดไฟแช็คให้กันในทำเนียบฯ เดินเป็นฝาแฝด เก่งขนาดแต่งตั้งให้ไปดูแลเรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาลดูไปดูมากลับแบ่งเข้าตัว เดี๋ยวเรื่องราวมีคลิปอื้อฉาวจนสุดท้ายจำใจลาออก ที่ต้องเอ่ยถึงเพราะลูกของนายเสกสกล ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายตำรวจสังกัดกองบัญชาการสืบสวนกลาง (บก.อก.) แต่งตั้งเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2564 และอีกคนลูกสาวชื่อ น.ส.จิตปรารถนา (สงวนนามสกุล) บรรจุเดือนเม.ย. 2565 ตำแหน่งกองการต่างประเทศ เป็นการรับในตำแหน่งที่ไม่ได้มีการขาดแคลน 

"ผมเพิ่งถึงบางอ้อว่าเหตุใดคนเป็นพ่อถึงสู้ตายเพียงข้างๆ คูๆ ช่วยพล.อ.ประยุทธ์ จนไม่ลืมหูลืมตา การแต่งตั้งลักษณะนี้คือเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องตนเอง แล้วพล.อ.ประยุทธ์จะปฏิรูปตำรวจอย่างไร ภาษาบ้านผมคือ "เบิ้ดคำสิเว้า" หรือไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ผมอยากให้ประชาชนรับฟังให้เห็นว่าเมื่อเขามีอำนาจเขาทำอะไรก็ได้ และด็อกเตอร์คนนี้ไม่ธรรมดา เสกอะไรก็ได้ การปฏิรูปอะไรต้องดูตัวผู้บริหาร คนเป็นผู้นำองค์กร เพราะตำรวจดีๆ ทำงานเขาเสียน้ำใจ

นายกฯจะต้องตอบเรื่องนี้ว่าแต่งตั้งเข้าไปได้อย่างไร นี่ไม่ใช่ความผิดของลูกหลาน แต่เป็นความผิดของคนแต่งตั้ง นายกฯต้องจำไว้ว่าไม่ได้เป็นผู้จ่ายเงินให้ตำรวจเอง เพราะตำรวจแต่ละคนกว่าจะเกษียณคำนวณดูจะต้องเสียเงินกว่า 32 ล้านบาทต่อคน เมื่อแต่งตั้ง 2 คน ก็ใช้ภาษีของประชาชน 64 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้มีความสามารถในการดำเนินการให้หน่วยงานได้อย่างเต็มที่" นายสมคิด กล่าว