วันที่ 20 ก.ค.65 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า...

โควิด 19 การศึกษาระดับภูมิต้านทานหลังให้วัคซีนเข็ม 4

ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ระดับภูมิต้านทานจะลดลงตามกาลเวลาที่ผ่านไป ในช่วงการระบาดอย่างมาก จึงจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นยกระดับภูมิต้านทาน เพื่อทำให้เมื่อติดเชื้อแล้วความรุนแรงของโรคจะลดลง

การให้วัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 4 วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ (วัคซีนไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา ขนาดครึ่งโดส) หลังการฉีดวัคซีนมาแล้ว 3 เข็มด้วยสูตรต่างๆดังนี้

>> Sinovac + Sinovac + AstraZeneca

>> Sinovac + Sinovac + Pfizer

>> Sinovac + Sinovac + Moderna

>> Sinovac + AstraZeneca + AstraZeneca

>> Sinovac + AstraZeneca + Pfizer

>> Sinovac + AstraZeneca + Moderna

>> AstraZeneca + AstraZeneca + AstraZeneca

เพื่อจะได้ทราบถึงระดับภูมิต้านทานที่เกิดขึ้น ว่ามีการแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด จะเป็นข้อมูลพื้นฐาน ในการให้วัคซีนต่างชนิดกัน และเปรียบเทียบหลังเข็ม 4 กับข้อมูลที่มีอยู่เดิมแล้วในการให้หลังเข็ม 3 ว่าระดับภูมิต้านทานแตกต่างกันมากน้อยเพียงไร

โดยขอตรวจภูมิต้านทานก่อนรับวัคซีน และหลังการฉีดวัคซีน 1 เดือน อีก 1 ครั้ง เพื่อดูการตอบสนองของภูมิต้านทานต่อโควิด-19 โครงการวิจัยนี้ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมทางการวิจัยในมนุษย์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผู้ที่สนใจจะมารับการฉีดวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ (ไฟเซอร์ หรือ ครึ่งโดสโมเดอร์นา) เข็มที่ 4 มีคุณสมบัติดังนี้

-ได้รับวัคซีนมาแล้ว 3 เข็ม ตามสูตรที่แสดงมาข้างบน

-อายุ 18 ปีขึ้นไป

-สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี

-ไม่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง

-ไม่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน

-ยินดีให้ตรวจเลือดวัดภูมิต้านทานก่อนการฉีดวัคซีนครั้งที่ 1 และ และหลังการฉีดวัคซีน 1 เดือน อีก 1 ครั้ง รวม 2 ครั้ง

-ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 4 )

โดยการกรอกกูเกิลฟอร์ม