เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน กรมประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจัดงานแถลงข่าวในหัวข้อ “จีนในทศวรรษนี้” ว่าด้วยสถานการณ์เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูชนบทในยุคสมัยใหม่ โดยนายเติ้ง เสี่ยวกัง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและกิจการชนบท กล่าวว่า นับตั้งแต่การประชุมรวมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 18 อุปทานของธัญพืชและผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญของจีนมีเสถียรภาพ สามารถสร้างหลักประกันความมั่นคงพื้นฐานด้านอาหารของประเทศแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ  การบรรเทาความยากจนครอบคลุมและทั่วถึง สร้างปาฏิหาริย์ไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ด้านการเกษตรมีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงในด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์ขึ้นไปอีกขั้น การฟื้นฟูชนบทเริ่มต้นได้ด้วยดี ภาพลักษณ์ของชนบทดีขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน การปฏิรูปชนบทรอบด้านยิ่งขึ้น ชนบทมีแรงผลักดันใหม่ในพื้นที่ของตนให้มีการพัฒนาและก้าวหน้า

กำลังการผลิตพืชผลทางอาหารสูงขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ

ในปี 2021 ผลผลิตธัญพืชของจีนมีประมาณสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ มีประมาณสูงถึง 1,365.7 พันล้านกิโลกรัม และปริมาณการครอบครองธัญพืชต่อหัวสูงถึง 483 กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าเส้นความปลอดภัยด้านอาหารที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลที่ 400 กิโลกรัม ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ปริมาณอาหารเพียงพอและปลอดภัยสูง อาหารประเภท เนื้อ นม ไข่ และผลิตภัณฑ์จากน้ำ ได้แก่ น้ำผักผลไม้และน้ำชามีปริมาณพอเพียงต่อความต้องการ อีกทั้งประชาชนสามารถประทานผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูงได้อย่างเพียงพอและทั่วถึง

นายเติ้ง เสี่ยวกัง กล่าว “ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ท้องที่และหน่วยงานต่างๆ ได้ดำเนินการรับประกันความมั่นคงด้านอาหารและพืชผลการเกษตรที่สำคัญอย่างเอาจริงเอาจัง ทำให้ภารกิจหลักของยุทธศาสตร์ “ซานหนง” หรือ การจัดการแก้ไขปัญหาการเกษตร ชนบทและเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มกำลังการผลิตผลการเกษตรที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ให้ประชาชนชาวจีนมีอาหารเพียงพอตามต้องการ”

มุ่งเน้นดำเนินการยุทธศาสตร์ “การจัดเก็บเมล็ดพันธุ์พืชในที่ดินและเทคโนโลยี” เพื่อเพิ่มกำลังผลิตขั้นพื้นฐานทางการเกษตร จะต้องมีปริมาณการเพาะปลูกอย่างน้อย 1.8 พันล้านมู่ นำพื้นที่เพราะปลูกธัญพืช 1.058 พันล้านมู่ และพื้นที่คุ้มครองการเพาะปลูกพืชผลการเกษตรอื่นที่สำคัญแบ่งออกเป็นมณฑล เมือง อำเภอ ไปจนถึงแปลงเพาะปลูก สร้างที่นามาตรฐานสูงสะสมให้ถึง 900 ล้านมู่ เริ่มดำเนินการโครงการปกป้องที่ดินสีดำแห่งชาติ มีการเพาะพันธุ์พืชใหม่ๆที่มีคุณภาพดีและมีความทนทานเยอะขึ้น ประชาชนมีเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีอย่างทั่วถึง พืชผลที่เพาะปลูกด้วยเมล็ดพันธุ์คุณภาพถูกนำไปปลูก บนพื้นที่เพาะปลูกกว่า 95% ทำให้จีนประสบความสำเร็จในการใช้เมล็ดพันธุ์ของตนเองเพาะปลูก ไม่พึงพาเมล็ดพันธุ์นำเข้า

มุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและเกษตรกร ส่งเสริมด้วยผลประโยชน์ และเสริมส่งด้วยความยุติธรรม เพื่อให้เกษตรกรและรัฐบาลท้องถิ่นมีแรงจูงใจที่จะมุ่งเน้นไปที่การเกษตรและเก็บเกี่ยวผลผลิต การสนับสนุนด้านราคาเพื่อรักษาเสถียรภาพของกำไรที่จะต้องได้ เงินประกันราคา การประกันคุ้มครองที่ครอบคลุมเพื่อลดความเสี่ยง การบริการทางธุรกิจเพื่อเพิ่มรายได้ ทำให้เกษตรกรที่เพาะปลูกมีรายได้เพิ่มขึ้น และเกษตรกรสามารถทำกำไรจากการเพาะปลูกมากยิ่งขึ้น ดำเนินการโดยยึดแนวทางของนโยบายด้านความปลอดภัยด้านอาหารเดียวกันกับรัฐบาล ผลักดันและรับผิดชอบหน้าที่ในพื้นที่การเพาะปลูก พื้นที่จัดจำหน่ายพืชผลหลัก และพื้นที่การผลิตและการขายที่สมดุล

เร่งเสริมสร้างความเข้มแข็งในการสร้างผลผลิต โดยให้การบริการทางสังคมและเครื่องจักรสำหรับการเพาะปลูก เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการธัญพืช ลดต้นทุนการเพาะปลูก เร่งจัดตั้งระบบบริการทางสังคม อบรมประชาคมการเกษตรมากกว่า 950,000 แห่ง ให้บริการแก่พื้นที่เพาะปลูกกว่า 1.7 พันล้านมู่ และให้บริการแก่เกษตรกรกว่า 78 ล้านครัวเรือน เพิ่มระดับการใช้เครื่องจักรตลอดกระบวนผลิต มีอัตราการใช้เครื่องจักรในการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว 3 ธัญพืชที่สำคัญ อันได้แก่ ข้าวสาลี 97% ข้าวโพด 90% และข้าวเจ้า 85% ซึ่งการนำเครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตรมาใช้สามารถเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ภาพลักษณ์ชนบทเกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีอย่างเห็นได้ชัด

การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตภายในชนบทให้ดีขึ้นเป็นภารกิจที่สำคัญของยุทธศาสตร์การฟื้นฟูชนบท ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์และสภาแห่งรัฐของจีนได้ดำเนินการ “แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดระเบียบสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตในชนบท ระยะ 3 ปี” และ “แผนปฏิบัติการเพื่อเพิ่มการจัดระเบียบสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตในชนบท ระยะ 5 ปี ค.ศ.2021-2025” ส่งผลให้สภาพแวดล้อมภายในชุมชนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประชาชนมีความสุขมากขึ้น ขณะเดียวกันชนบทกว่า 95 % ทั่วประเทศจัดให้มีการทำความสะอาดชุมชน ชุมชนสะอาดและมีระเบียบ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศสร้างชุมชนต้นแบบที่สวยงามขึ้นมากถึง 50,000 แห่ง

นายหง เทียนหยุน กล่าวว่า “แนวคิดด้านวิถีชีวิตของชาวนามีความเป็นอารยะและมีคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บ้านเรือนสะอาด มีระเบียบ และสวยงาม วิถีชีวิตมีความสะอาด ถูกสุขลักษณะ และรักษาสิ่งแวดล้อม” การจัดระเบียบสภาพแวดล้อมในชนบทได้เปลี่ยนแปลงความคิดการรักษาสุขอนามัยของชาวนาไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในชุมชนที่สดใส เป็นการสร้างต้นแบบความเป็นอารยะของชุนชนอีกด้วย

เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูของชนบทจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรและชนบทตามสภาพท้องถิ่น นายหง เทียนหยุน เผยว่า “การปรับปรุงโครงสร้างดังกล่าวจะต้องคำนึงถึงสภาพความพร้อมของพื้นที่ ระดับการพัฒนาของเศรษฐกิจ และแต่ละนโยบายจะต้องดำเนินการตามแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจน” การให้เกษตรกรมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง โดยทำงานร่วมกันกับตัวแทนผู้นำของพรรคฯในชุมชนหรือเขตพื้นที่ ทำให้การจัดระเบียบสภาพแวดล้อมเป็นไปด้วยดีเยี่ยม การร่วมกันเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และการรักษาระบบนิเวศภายในชุมชนเป็นงานหลักที่สำคัญ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นต้นแบบและเป็นการขับเคลื่อนการจัดระเบียบสภาพแวดล้อมภายในชุมชนให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

การพัฒนาอุตสาหกรรมขับเคลื่อนรายได้ของเกษตรกร

การฟื้นฟูอุตสาหกรรมมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่สุดของการฟื้นฟูชนบท ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จีนได้ผลักดันและส่งเสริมให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมในชุมชนอย่างเต็มที่ รวมถึงการวางรากฐานที่เหนียวแน่นสำหรับเตรียมพร้อมฟื้นฟูชนบท เร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมการแปรรูปและหมุนเวียนผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร โดยมีการสร้างโรงงานแปลรูปหลักแล้วกว่า 156,000 แห่ง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับห้องเย็นรักษาความสดใหม่ของผลผลิตภายในพื้นที่การผลิตมากกว่า 50,000 แห่ง อัตราการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสูงถึง 70.6% สร้างรายกว่า 25 ล้านล้านหยวน การพัฒนาอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวในชุมชนเป็นไปอย่างมั่นคง มีการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มเพื่อการพักผ่อนและท่องเที่ยว และบ้านไร่มากกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ สร้างรายได้ได้มากกว่า 7 แสนล้านหยวนต่อปี อุตสาหกรรมและธุรกิจการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในชุมชนกำลังเฟื่องฟู มีธุรกิจอีคอมเมิร์ซทางการเกษตรมากกว่า 30,000 ร้าน ยอดค้าปลีกรูปแบบออนไลน์ในชนบทมากกว่า 2 ล้านล้านหยวน และการขายปลีกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรรูปแบบออนไลน์กว่า 4.2 แสนล้านหยวน มีการสร้างเอกลักษณ์และแบรนด์ประจำท้องถิ่นมากมาย

นายเติ้ง เสี่ยงกัง กล่าวว่า “การพัฒนาแบบบูรณาการของอุตสาหกรรมในชนบทค่อย ๆ กลายเป็นเทรนด์ที่ส่งสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมในชนบทระดับต่างๆ  มีการสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์กว่า 140 กลุ่ม สวนอุตสาหกรรมเกษตรสมัยใหม่แห่งชาติ 250 แห่ง เมืองอุตสาหกรรมเกษตรมากกว่า 1,300 แห่ง และหมู่บ้านตัวอย่างและเมืองตัวอย่างกว่า 3,600 แห่ง มีการพัฒนาอุตสาหกรรมในชนบทที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ทันสมัย โดดเด่น และมีคุณภาพสูง มีการสร้างนวัตกรรมและการสร้างอาชีพเกิดขึ้นในชนบทมากขึ้น สร้างสวนนวัตกรรม การสร้างอาชีพและศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพภายในชุมชนกว่า 2,200 แห่ง มีประชาชนกลับสู่บ้านเกิดสร้างอาชีพเพื่อสูงขึ้นถึง 11.2 ล้านคน

ทั้งนี้ นายเติ้ง เสี่ยวกัง ยังเปิดเผยอีกว่า กระทรวงเกษตรและกิจการชนบทจะใช้การส่งเสริมการจ้างงานและเพิ่มรายได้ของเกษตรกรเป็นทิศทางพื้นฐานสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมในชนบท เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมที่เพิ่มคุณค่าให้กับประชาชน ส่งเสริมให้เกษตรกรสร้างอาชีพในชนบท ดึงสิ่งที่มีค่าของชนบทออกมาให้โดดเด่น เพิ่มโอกาสในการสร้างอาชีพและเพิ่มมูลค่าของห่วงโซ่อุตสาหกรรมให้แก่เกษตรกรในชุมชนมากขึ้น