รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่า ในที่ประชุมครม. นายอนุชา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ประสานงานวิปรัฐบาล ได้รายงานเกี่ยวกับวาระการประชุมสภา ร่วมถึงกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมแจ้งว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี เป็นรายๆไปตามลำดับของครม. โดยให้ฝ่ายค้านใช้สิทธิได้เต็มที่ ส่วนรัฐมนตรีขออย่าใช้เวลาชี้แจงมาก เพราะเดี๋ยวฝ่ายค้านจะพูดไม่ครบ และจะมาร้องขอต่อเวลา ก็ยิ่งจะให้เสียเวลาไปอีก
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กล่าวว่า ตนจะพูดเปิดนิดหน่อย และเชื่อว่าเราสามารถชี้แจงได้ ตอบได้ แต่ขอให้เก็บอารมณ์ เชื่อว่าทุกอย่างจะออกมาเรียบร้อยดี ให้เราพูดชี้แจงตามข้อเท็จจริง
ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวขึ้นว่า รัฐมนตรีควรมีเวลาชี้แจงฝ่ายค้านด้วย เพราะว่าถ้าเราไม่ตอบ คนก็จะเข้าใจผิด ดังนั้นจึงอยากให้ชี้แจง ส่วนเรื่องขอเวลาก็อยากให้เจรจากัน เพราะอย่างน้อยต้องได้เวลาเท่ากันทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล อย่างไรก็ตามก็เข้าใจและเห็นใจวิปรัฐบาลว่าอาจจะต้องลำบากหน่อยในการเจรจา
นอกจากนี้ที่ประชุมครม.ยังได้แจ้งให้รัฐมตรีทราบว่ามีการเลื่อนการประชุมครม.สัปดาห์หน้า เป็นวันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม
อย่างไรก็ตามในช่วงหนึ่งของการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดถึงวันหยุดยาว ซึ่งต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่ช่วยดูแลประชาชนมาตลอด พวกเขาไม่เคยได้หยุดเลย ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่หรือสงกรานต์ ไม่เคยได้ไปเที่ยวไหน อยากจะให้ปลูกฝังเรื่องของระเบียบวินัยจราจร หรืออื่นๆ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ทำงานเบาลง และมีเวลาพักผ่อนกับคนอื่นเขาบ้าง
ทั้งนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า การบินไทยออกจากรัฐวิสาหกิจแล้ว และดำเนินการตามแผนปรับโครงสร้างหนี้ได้สำเร็จ มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น จากเดิมวันละ 400-500 คนขณะนี้เป็นวันละ 1 หมื่นคน ทำให้มีรายได้มากขึ้น มีการลดจำนวนพนักงานลง 50 เปอร์เซ็นต์ จาก30,000 คน เหลือ 15,000 คน และรอขายเครื่องบินอีก 18 ลำ โดยตอนนี้รอกระทรวงคมนาคมอนุมัติก่อนซึ่งถ้าทำตามแผนสำเร็จคาดว่าภายในปี 67 ก็อาจจะต้องออกจากแผนฟื้นฟูได้แล้ว หรืออาจจะเร็วกว่าปี67 ก็ได้ด้วยซ้ำถ้าสถานการณ์ดีขึ้นแบบนี้ นอกจากนี้ในเดือนกันยายนจะนัดประชุมเจ้าหนี้รายใหญ่ คือกระทรวงการคลัง และเจ้าหนี้รายใหญ่ที่เกี่ยวข้อง
ในช่วงท้ายการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เราต้องรู้รักสามัคคีกัน แล้วนำพาประเทศชาติไปข้างหน้าให้ได้ และทุกกระทรวงควรสร้างการรับรู้ในรูปแบบของพรรคร่วมรัฐบาล