วันที่ 10 ก.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชื่อ"มิสเตอร์ดำ"  ว่ามาได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยและเข้าเที่ยวที่ถนนข้าวสาร กระทั่งผับและบาร์เลิก จึงเดินกลับที่พักระหว่างทางแวะสูบบุหรี่พบกระเป๋าตกอยู่บริเวณข้างเสาไฟฟ้าถึงหยิบมาทำการตรวจสอบพบว่าข้างในกระเป๋าตังค์มีเงินสด1,000บาท ไม่รุจะไปคืนที่ไหนเนื่องจากเป็นเวลายามวิกาลแล้วกระทั่งตอนเช้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสน.ชนะ
สงคราม ตามที่ห้องพักและจับตัวมาที่ สน.

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากพ่อค้าแม่ขายบริเวณถนนข้าวสารว่า ช่วงนี้มีหญิงแปลกหน้าสักลายเดินเพ่นพ่านอยู่บริเวณถนนข้าวสารซึ่งมีพฤติการณ์ตกเบ็ดเพื่อเรียกทรัพย์ โดยใช้วิธีการโยนกระเป๋าตังค์ไว้ข้างทางและตามเวาไฟฟ้า ข้างในกระเป๋าจะใส่เงินจำนวน 1,000 บาท เมื่อนักท่องเที่ยวเก็บกระเป๋าตังค์ได้แล้วไม่รู้จะไปคืนใครสุดท้ายจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เข้าไปทำการจับกุมตัวมาที่สนชนะสงคราม โดยกล่าวหาว่าลักทรัพย์ และแจ้งให้กลุ่มหญิงมายืนยัน ที่สน. โดยกลุ่มผู้หญิงดังกล่าวจะอ้างว่าภายในกระเป๋ามีเงินสดจำนวน 6,000-7,000 บาท  ทำให้นักท่องเที่ยวที่เก็บกระเป๋าสตางค์ได้ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกจำนวน 6,000 บาท และไม่ติดใจเอาความเลิกลากันไป
มิสเตอร์ดำ กล่าวว่าด้วยความน้อยใจว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะลักทรัพย์ของผู้ใด และเป็นเวลาวิกาลนอกจากนี้ไม่ได้รับความร่วมมือ จากเจ้าหน้าที่เท่าที่ควรหนำซ้ำยังถูกเจ้าที่ชุดจับกุมขู่ต่างๆนานาจนต้องโทรแจ้งให้เพื่อนคนไทยมาพบที่โรงพักเพื่อเจรจาปัญหาที่เกิดขึ้นตนต้องเสียเงินเพิ่มอีกจำนวน 6,000 บาทให้กับเจ้าของกระเป๋าทั้งที่แสดงเจตนาความบริสุทธิ์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วก็ตาม

จากกรณีดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จนไม่อยากจะเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ถนนข้าวสาร ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของประเทศ กลายเป็นปัญหาสังคมบนภาวะวิกฤตเศรษฐกิจย่ำแย่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ยังไม่หมดปัญหาดังกล่าวต้องเร่งดำเนินการแก้ไขฝากไปยังพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการแห่งชาติ  และพล.ต.ท. สำราญ นวลมาผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ช่วยดำเนินการกวาดล้างจับกุมอย่างจริงจังให้หมดสิ้นเสียทีเพื่อสร้างความดีให้กับประเทศชาติ อย่าปล่อยให้แก๊งมิจฉาชีพลอยนวล