วันที่ 9 ก.ค. 2565 เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สภ.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น  พ.ต.อ.พิชัยภูษิส จารุพงษ์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ พร้อมด้วยนายประจักษ์ ไชยกิจ นายอำเภอบ้านไผ่,พ.ต.ท.มนตรี สุปะตำ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านไผ่, พ.ต.ต.ปรีชา สะบก สว.สส.สภ.บ้านไผ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านไผ่ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายกิตติจร หรือโม่ง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 ม.15 ต.โพนงาม อ.กุดชุม จ.ยโสธร ,นายปทุมวัน หรือนาค  อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 ม.3 ต.ทุ่งนาโอก อ.เมือง จ.ยโสธร และ นายอุคม หรือคอน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่130 ม.10 ต.ทุ่งแต้ อ.เมือง จ.ยโสธร พร้อมของกลางไม้พะยุง ท่อนๆละ 1 เมตรและ 3 เมตร รวมจำนวน 4 ท่อน รถยนต์กระบะ อีซูซู สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน,อาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติก ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก ,อาวุธปืนยาวขนาด .22 ติดกล้องพร้อมกระบอกเก็บเสียง จำนวน 1 กระบอกและ เลื่อยโซ่ ยนต์ จำนวน 2 เครื่อง

โดย พ.ต.อ.พิชัยภูษิส จารุพงษ์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวว่าเนื่องจากที่สวนป่าหม่อนไหมบ้านดอนหมากพริก ม.4 ต.แคนเหนือ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่นเคยถูกขบวนการค้าไม้พะยุง ลักลอบตัดไม้พะยุงมาแล้ว 7 ครั้ง แต่จับกุมคนร้ายไม่ได้ จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บ้านไผ่ รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบตัดไม้พยุงได้เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่บริเวณที่สวนป่าหม่อนไหมบ้านดอนหมากพริก จึงได้จัดสายลับซุ่มอยู่ตามพื้นที่ป่าชุมชนที่มีต้นไม้พะยุง ตั้งอยู่

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ซุ่มดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนต้องสงสัย ก่อนพบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซู  ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาในพื้นที่ จึงได้วางแผนจับกุม โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มอยู่ จนกระทั่งช่วงกลางดึกที่ผ่านมาคนร้าย 3 คน ก็ขับรถยนต์คันดังกล่าวเข้ามาตัดซอยตัดไม้พะยุงอยู่สวนป่าดอนหมากพริก ตัดเป็นท่อนๆและขนใส่ท้ายรถกระบะ  เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวไว้ได้ทั้ง 3 คน พร้อมของกลางดังกล่าว ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ต่างให้การตรงกันว่า เป็นเพียงชุดที่ทำหน้าที่ขนย้ายไม้พะยุงเท่านั้น  เพราะนายทุนไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด จะมีการว่าจ้างคนทำงาน แบ่งหน้าที่เป็นชุด คือ ชุดจัดหาไม้พะยุงตามออเดอร์ของนายทุน  ชุดตัด  ชุดนำทาง และชุดขนย้าย  เมื่อขนไม้ขึ้นรถแล้ว นายทุนจะโทรมาแจ้งว่า ขนไม้พะยุงไปส่งและเปลี่ยนรถขนย้ายที่จุดใด  แต่ในครั้งนี้ นายทุนยังไม่แจ้งจุด เพราะถูกตำรวจจับกุมก่อน

ทั้งนี้ ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวต่ออีกว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังทราบอีกว่านายกิตติจร เป็นอดีตข้าราชการตำรวจยศ จ.ส.ต. เคยรับราชการตำรวจที่สภ.ปทุมราช จ.อำนาจเจริญ แต่ถูกให้ออกจากราชการ ส่วน นายอุคม เคยต้องโทษในคดีเกี่ยวกับไม้พะยุง ไม้หวงห้ามมาแล้ว  แต่ในการจับกุมครั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ปฏิเสธว่า ไม่เคยเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่อ.บ้านไผ่

สำหรับรถยนต์คันที่ใช้เป็นยานพาหนะในการขนไม้พะยุงนั้น เป็นของนายกิตติจร ซึ่งจริงๆเป็นรถมีทะเบียน คือรถยนต์ทะเบียน บห -1002 อุบลราชธานี แต่คนร้ายถอดทะเบียนออกไปวางไว้ใต้เบาะ นอกจากนี้ยังได้ตรวจปัสสาวะของทั้ง 3 คน พบว่าเป็นผลบวก อย่างไรก็ตามภายหลังจับกุมและสอบสวนเสร็จสิ้น จึงได้แจ้งข้อหา ร่วมกันทำไม้หวงห้าม ไม้พะยุงโดยไม่ได้รับ อนุญาต,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนไปในเมือง,หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย  ส่งตังผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ นำตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป