พร้อมหารือทั้งบริหารตลาดจตุจักร สู่ตลาดระดับโลก บูรณาการซ่อมถนนพัง-ปลูกต้นไม้ริมทางรถไฟสายเหนือ-ตะวันออก-ใต้ หาที่ทำมาหากินให้หาบเร่แผงลอย ทำอาคารเช่าในเมืองให้คนรุ่นใหม่
(6 ก.ค.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีความร่วมมือกันหลายเรื่อง เรื่องแรกคือ ตลาดจตุจักรซึ่ง กทม.ยังเป็นผู้บริหารอยู่ แต่ก็มีสัญญาที่ต้องจัดการร่วมกับการรถไฟ รวมถึงการวางแผนในอนาคตที่จะทำให้ตลาดจตุจักรเป็นตลาดระดับโลกได้อย่างไร ซึ่งจะมีคณะกรรมการตลาดชุดใหม่หารือร่วมกับการรถไฟอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงเรื่องถนนริมทางรถไฟ ที่ผ่านมามีร้องเรียนสภาพเป็นคลื่น เป็นหลุมบ่อ ซึ่งมีบางส่วนที่การรถไฟดูแล และบางส่วน กทม.ดูแล ก็จะประสานงานอย่างเข้มข้น เพื่อให้ประชาชนสะดวกขึ้น โดยมอบรองผู้ว่าฯ วิศณุ ดูแล
ส่วนเรื่องของที่ดิน มี 3 ประเด็นที่หารือกับทางรถไฟ 1.การปลูกต้นไม้ เรามีโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น ซึ่งการรถไฟ น่าจะมีที่โดยเฉพาะตามเส้นทางรถไฟที่พอจะให้ปลูกต้นไม้ได้ อาจจะไม่ใช้พื้นที่มาก แต่ปลูกเป็นแนวกันชุมชนกับทางรถไฟ ให้เกิดร่มเงา สวยงาม และระยะทางไกลทั้งสายเหนือ ตะวันออก และใต้ หรือพื้นที่การรถไฟเองก็มีที่สามารถปลูกได้ ซึ่งผู้ว่าฯการรถไฟ แจ้งจะเริ่มปลูก 2,000 ต้น เพราะมีพื้นที่ที่การรถไฟปลูกต้นไม้อยู่แล้วก็จะทำต่อเนื่องไป 2.เรื่องหาพื้นที่ทำมาหากินให้ประชาชนกลุ่มหาบเร่แผงลอย โดยมีแนวคิดทำ ตลาดเล็กๆ ที่นำหาบเร่แผงลอยเข้ามา ให้ประชาชนทำมาหากินได้ในราคาไม่แพง เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งการรถไฟก็ทำไว้แล้วแถวคลองตัน ก็จะพยายามหาความร่วมมือขยายผลต่อไป
3.เรื่องที่อยู่อาศัย เป็นเรื่องใหญ่อาจต้องมีหลายหน่วยงานมาเกี่ยวข้อง ทั้งการเคหะ การรถไฟ และ กทม. มีแนวคิดหาพื้นที่ให้ผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงาน โดยจัดหาพื้นที่ทำอาคารเช่าให่เกิดแหล่งที่อยู่อาศัยที่อยู่ในเมือง เดินทางไม่ไกล ก็จะช่วยเรื่องปัญหาจราจรและช่วยค่าครองชีพของคนรุ่นใหม่ โดยให้เช่าแบบกำหนดระยะเวลา ซึ่งจะหารือกันต่อไป นอกจากนี้ยังมีการหารือเรื่องของการบริหารจัดการสวนรถไฟ ซึ่ง กทม.เป็นผู้บริหารจัดการ ขณะที่การรถไฟดูแลโครงสร้างพื้นฐาน มีบางส่วนที่ กทม.ต้องปรับปรุง เช่นทางจักรยาน ทั้งนี้ จะมีการตั้งคณะทำงานชุดย่อยในแต่ละเรื่อง ประสานงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
“ เรื่องหนี้กับการรถไฟ ไม่ต้องกลัว เป็นเรื่องระหว่างรัฐกับรัฐ เคลียร์กันได้ เราไม่ชักดาบอยู่แล้ว แค่ตกลงให้ถูกต้องตามสัญญา เรามองไปอนาคตมากกว่า ตอนนี้ตลาดจตุจักรคนเดินน้อย ผู้ค้าไม่มี แต่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาแล้ว จะกระตุ้นเศรษฐกิจ มียุทธศาสตร์อย่างไรในการวางแผนตลาดจตุจักรในอนาคต นี่สำคัญกว่า สัญญา กทม.เหลือแค่ 6 ปี สุดท้ายการรถไฟอาจจะต้องเป็นผู้ดูแลต่อหรือไม่ ต้องหารือกันเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องด้วย ส่วนเรื่องหนี้หลัก 100 ล้าน ไม่มีปัญหา แค่ดูให้สอดคล้องกับมติครม. ซี่งมอบที่ปรึกษา ต่อศักดิ์ เป็นผู้ประสานเรื่องนี้ “ ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว
ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ มีการหารือกันหลายเรื่องที่จะบูรณาการร่วมกันไม่ว่าจะเป็น ตลาดจตุจักร รวมถึงการปรับปรุงถนนที่อยู่ในส่วนของการรถไฟ และ กทม. และยังมีเรื่องของหาบเร่แผงลอย การปลูกต้นไม้ การสร้างที่อยู่อาศัยให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่จะร่วมมือกันให้เกิดขึ้นได้รวดเร็ว