อบจ.สตูลกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ หวังสร้างรายได้ให้เกษตรกรไม้ผลชายแดนใต้ในงาน “มาแลต๊ะ ผลไม้ชุมชนของดี  Satun Fruit Fest”

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.65 ที่ท่องเที่ยวโดยชุมชนวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล โชว์ลีลาการฉีกทุเรียนพื้นเมืองพันธุ์  “สาวปาหนัน (บ้านโตน)” ซึ่งนำมาจากต้นที่มีอายุไม่น้อยกว่า 200 ปีในงานพิธีเปิด กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดสตูล  มาแลต๊ะ ผลไม้ชุมชนของดี “Satun Fruit Fest” ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จัดโดยการท่องเที่ยวโดยชุมชนวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูลร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล  

โดยภายในงานได้นำผลไม้เครือข่ายของชุมชนซึ่งเป็นแปลงเกษตรอินทรีย์  มาจัดบุฟเฟต์ผลไม้อินทรีย์จากสวน อิ่ม ฟิน ทานกันไม่อั้น ในราคาสุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวเพียงท่านละ 222 บาท นอกจากนี้นี้มีการแข่งขันกินวิบาก การสาธิตการทําอาหารและแปรรูปจากผลไม้เกษตรอินทรีย์ เช่น เค้กจำปาดะ จำปาดะทอด ไอศกรีมทุเรียน ตำผลไม้กระท้อน ลองกองและผลไม้ประจำถิ่น การจำหน่ายสินค้าเกษตร และผลไม้สดจากชาวสวน ราคาสบายกระเป๋าการแสดงและการละเล่นศิลปะวัฒนธรรม    

โดยผลไม้ที่เป็นไฮไลท์คือทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองที่มีมากกว่า 20 สายพันธุ์ให้นักท่องเที่ยวได้ทานกันอย่างจุใจพร้อมกระเช้ากลับบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเตรียมผลักดันให้งานจัดเพิ่มขึ้นจาก 1 วันเป็น 2-3 วันในปีหน้าเพื่อให้นักท่องเทียวได้มีโอกาสมาเลือกสรรอุดหนุนผลผลิตของเกษตรกรในยาวนานและยังเป็นการส่งเสริมการท่องเทียวเชิงเกษตรสร้างรายได้ต่อพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ชายแดนสตูลด้วย 

นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ยอมรับว่า ปีนี้ไม้ผลจังหวัดสตูลให้ผลผลิตน้อยเนื่องจากสภาพอากาศและเชื่อว่าในปีหน้าผลผลิตจะมากกว่านี้ จึงวางแผนในการเพิ่มวันจัดงานในมากขึ้นเพื่อขยายโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชิม ช๊อป ไม้ผลของเกษตรกรซึ่งเป็นแปลงเรียนรู้สร้างโอกาสรายได้กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงเกษตรมากยิ่งขึ้น

ขณะที่นายสาและ ปันจอร์ ประธานเครือข่ายท่องเที่ยวโดยชุมชนวังประจัน ระบุว่า สิ่งที่อยากให้ทางภาครัฐโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาช่วยผลักดันคือ การส่งเสริมให้มีการปลูกจำปาดะให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นผลผลิต GI ของดีของเด่นจังหวัดสตูลเพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากยิ่งขึ้นหลังมีความต้องการของตลาด และเชื่อว่าอนาคตจะสดใสหลังเริ่มเป็นที่นิยมในการรับประทานไม้ผลพื้นเมืองอย่าง จำปาดะกันมากขึ้น ทั้งในรูปการณ์ทานสด และการแปรรูป