เปิดนัดแรกถกงบประมาณปี 66 วันที่ 6ก.ค.นี้วอนสมาชิกระมัดระวังคำพูดหวั่นถูกฟ้องแพ่งอาญา เนื่องจากส.ก.ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ประกอบกับมีการถ่ายทอดสดในรอบ 8 ปี ในอนาคตจะมีการปรับแก้กฎหมายในส่วนนี้ เพราะการอภิปรายและกล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่สามนั้นก็เพื่อความโปร่งใสในการให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลมากขึ้น จ่อเปิดสัญญาจ้างย้อนหลังของหน่วยงานให้สภาตรวจสอบ 

          เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม.2ดินแดง นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ โฆษกสภากรุงเทพมหานคร (โฆษกสภากทม.) แถลงก่อนเริ่มเปิดประชุมสภากรุงเทพมหานครเพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ในวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2565นี้ โดยกล่าวว่า เนื่องจากใกล้จะประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยที่สาม ครั้งที่ 1 ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นครั้งแรกรอบ 8 ปี ที่สภากทม.ที่มาจากการเลือกตั้ง จะมีการประชุมเรื่องสำคัญ ในการพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เป็นครั้งแรก ซึ่งการพิจารณางบฯ เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากประชาชน ดังนั้น สภากทม.จึงตัดสินใจถ่ายทอดสด ผ่านสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ให้ประชาชนสามารถติดตามการอภิปรายได้ทุกช่องทางของสถานี 

          ทั้งนี้ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองในการอภิปราย ทั้งคดีแพ่งและอาญา ในการกล่าวถึงบุคคลที่สาม จึงขอให้ฝ่ายบริหาร ระมัดระวังคำพูดถึงการก้าวล่วงบุคคลที่สาม เพื่อความปลอดภัย ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (สส.) มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง อย่างไรก็ตามสภากทม. หวังว่าในอนาคตจะมีการปรับแก้กฎหมายในส่วนนี้ เพราะการอภิปรายและกล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่สามนั้นก็เพื่อความโปร่งใสในการให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลมากขึ้น

          นอกจากนี้ สภากทม.ขอให้ฝ่ายบริหาร ให้โอกาสทุกหน่วยงาน เปิดสัญญาจ้างโครงการต่างๆ ย้อนหลัง เพื่อให้สภากทม.ตรวจสอบย้อนหลังได้ และนำไปเทียบเคียงการพิจารณางบปี 66 ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 สืบเนื่องจากผู้ว่าฯกทม. มีนโยบายในการเปิดสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อตรวจสอบให้เกิดความโปร่ง ซึ่งสภากทม. จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสภากทม. ด้วย 

          ส่วนการรับโอนหนี้ที่ผู้ว่าฯกทม.กล่าวมาถึงสภากทม.ว่า มีรายงานการประชุมหรือมติการรับโอนหนี้แล้งหรือไม่นั้น ขอชี้แจงว่า เมื่อปี 64 สภากทม.ในสมัยนั้น มีมติเห็นชอบข้อญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการกู้เงิน เพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมายความว่า ยังไม่มีการรับหนี้ดังกล่าวอย่างชัดเจน ดังนั้น สภากทม.ชุดนี้ จะนำเรื่องดัวกล่าวเข้าประชุมหารือและพิจารณาใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

          นางสาวนันฤนันมนต์ กล่าวต่อว่า กรณีมีการแชร์ข่าวเปิดงบ 50 เขต ซึ่งแต่ละเขต มีงบประมาณสูง 300-500 ล้าน ยืนยันว่าเป็นข้อมูลจากการเปิดเผยร่างงบประมาณปี 66 ซึ่งมาจากการค้นหารายชื่อสำนักงานเขต แต่ในความเป็นจริง สำนักงานเขตไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณจริงตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ยกตัวอย่าง เขตคลองสามวา ได้งบประมาณใช้เพียง 72 ล้านบาท แต่ในข่าวที่เปิดเผยกว่า 400 ล้านนั้น รวมในส่วนของสำนักการโยธา (สนย.) ด้วย เพราะมีโครงการก่อสร้างรพ.คลองสามวา ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตคลองสามวา 300 กว่าล้านบาท ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนลงลึกไปในรายละเอียด โดยติดตามการถ่ายทอดสด เพื่อจะได้ทราบว่างบแต่ละส่วนไปอยู่ในส่วนใดบ้าง นอกจากติดตามตรวจสอบแล้ว ยังสามารถบอกความต้องการของคนในพื้นที่ ผ่านเพจสภากทม. หรือเพจส่วนตัวของสก.ทุกคน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของกทม.และในการจัดสรรงบฯแต่ละส่วนด้วย