วันที่ 3 ก.ค.65 ที่ ภ.จว.เพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย  กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ,พ.ต.อ.กานต์  ธรรมเกษม รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี, พ.ต.อ.โกศล ยามา ,พ.ต.อ.วายุภักษ์ วงศ์ศักดิรินทร์ ผกก.สภ.ชะอำ,พ.ต.อ.ครรชิต  โขวัฒนชัย ผกก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี,พ.ต.ท.สุขุม  เพาะไธสง รอง ผกก.สส.สภ.ชะอำ, พ.ต.ท.ประไพ โต้ตอบ สว.กก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี, พ.ต.ท.สุรพล เต็มไธสง สว.กก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี, พ.ต.ต.ทวีเดช  เทียนทอง  สว.สส.สภ.ชะอำ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ชะอำ ร่วมกันจับกุมมนายภรัณยูหรืออู่เงิน  อายุ 37 ปี   ผู้ต้องหาอยู่ บ้านเลขที่ 752/3  ถ.ต้นมะสังข์ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในความผิดฐาน  ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา "พร้อมของกลาง   1. อาวุธมีดสั้น ยาวประมาณ 26 ซม. จำนวน 1, อันปลอกมีด ทำจากท่อพีวีซี สีฟ้า พันด้วยเชือก จำนวน 1อัน เสื้อสีแดงแขนยาว จำนวน 1 ตัว   กางเกงขาสามส่วน สีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว  และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สี ดำ หมายเลขทะเบียน 1กช 9810 เพชรบุรี  จำนวน 1 คันโดยจับกุมได้ที่ บริเวณหน้า บ้านเลขที่ 752/3  ถ.ต้นมะสังข์ ต.ชะอำ  อ.ชะอำ  จ.เพชรบุรี
 พล.ต.ต.อุทัย กล่าวว่า ตามนโยบายในการปราบปรามอาชญากรรมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์   แจ้งยอดสุขผบ.ตร.,พล.ต.อ.สุชาติ  ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.รอย    อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ต่อศักดิ์  สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.อ.สมพงษ์  ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร, พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้ช่วย ผบ.ตร.
โดยภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7, ให้ดำเนินเร่งรัดปราบปรามอย่างจริงจัง สำหรับ
พฤติการณ์ ว่าเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 เวลา 15.55 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ จากพลเมืองดี ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด บริเวณริมถนนบายพาส ชะอำ-ปราณบุรี เลยด่านชั่งประมาณ 2-3 กิโลเมตร หลังรับแจ้ง สายตรวจ 20 สภ.ชะอำ จึงได้ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณโดยรอบ จากนั้นได้มีพลเมืองดีอีกกลุ่มหนึ่ง แจ้งเบาะแสของคนร้ายผู้ก่อเหตุ พร้อมแจ้งรูปพรรณสัณฐาน และยานพาหนะที่ใช้หลบหนี ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 จึงวิทยุสั่งการให้ชุดสายตรวจทุกจุด ดำเนินการตามแผนก้าวสกัด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนนบาย
พาส ชะอำ-ปราณบุรี บริเวณ หลักกิโลเมตรที่ 7+
200 ขาล่องใต้ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พบชายนอนเสียชีวิตอยู่ริมถนน โดยสภาพศพของนายน้อยหรือก็อด  ถูกของมีคมแทงที่ลำตัวจำนวน 4 ครั้ง และบริเวณสถานที่เกิดเหตุใกล้กับที่พบศพพบปลอกมีดตกอยู่โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบถามจนต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายน้อยหรือก็อด สีแดง สอบถาม นางสำเรียง สีแดง ภรรยาของผู้เสียชีวิตให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าปลอกมีดดังกล่าวเป็นของผู้เสียชีวิตที่พกติดตัวอยู่ตลอด ซึ่ง ​​​​​​​
จากการสืบสวนของชุดสืบสวนของสภ.ชะอำ และชุดสืบสวนของ  กก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี ได้สืบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายภรัณยูหรือนาน อู่เงิน จึงได้เดินทางไปที่บ้านพักของผู้ก่อเหตุ ที่บ้านเลขที่ 752/3 ถ.ต้นมะสังข์ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเดินทางไปถึงบริเวณหน้าบ้านพัก ผู้ก่อเหตุได้สังเกตเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินออกมาพบและแสดงตัวว่าตนคือผู้ก่อเหตุแทงนายน้อยหรือก็อดฯ จนถึงแก่ชีวิต โดยเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมฟังว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค 2565 เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ขณะที่ตนทำงานอยู่ที่เตาเผาถ่านใกล้กับถนนสายบายพาส ชะอำ-ปราณบุรี หลักกิโลเมตรที่ 7+200 นายน้อยหรือก็อด สีแดง ได้เดินมาเลี้ยงวัวบริเวณริมถนนสายดังกล่าวซึ่งอยู่ใกล้กับที่ตนกำลังทำงานอยู่และนายน้อยหรือก็อดฯ ได้ส่งเสียงดังลักษณะท้าทายตน ตนจึงได้เดินมาหานายน้อยหรือก็อดฯและได้มีปากเสียงกัน จากนั้นได้ชกต่อยกัน จนนายน้อยหรือก็อดฯ ชักอาวุธมีดที่พกมาในย่ามเพื่อที่จะแทงตน และได้ต่อสู้กันจน นายน้อยหรือก็อดฯ ล้มลงและมีดหลุดจากมือ จากนั้นตนจึงได้หยิบมีดมาแทง นายน้อยหรือก็อดฯ แต่ตนจำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง หลังจากก่อเหตุเสร็จได้โยนมีดทิ้งเข้าป่าใกล้กับที่เกิดเหตุ และขับขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้านพักของตนเอง จากนั้นได้อาบน้ำและซักชุดที่ตนใส่ก่อเหตุและตากชุดนั้นไว้ที่ราวตากผ้าหลังบ้านพักของตน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบตนจึงได้ออกมาแสดงตัว โดยตนได้ยอมรับว่ามีเรื่องบาดหมางใจกับนายน้อยหรือก็อดฯ มาก่อนหน้านี้แล้ว และวันนี้นายน้อยหรือก็อดฯ  มาหาเรื่องตนอีก จึงได้ลงมือก่อเหตุไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เก็บเสื้อและกางเกงตามบัญชีของกลาง และรถจักรยานยนต์ตามบัญชีของกลางไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายและแจ้งให้ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ” นายภรัณยูหรือนานฯ ทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวนายภรัณยูหรือนานฯ พร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย  จากการตรวจสอบ ผู้ต้องไม่เคยมีประวัติการต้องหาคดีอาญามาก่อน