อุทาหรณ์คนค้ำประกัน ไว้ใจเพื่อนสนิท เซ็นชื่อค้ำประกันให้เพื่อนซื้อรถยนต์ สุดท้าย เพื่อนหนี ไม่จ่าย ค้างค่างวดรถจนถูกยึดที่ดิน วอนขอความเป็นธรรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 28 มิ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 210 ม.6 บ.ฟ้าเหลื่อม ต.หนองเรือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น พบกับนางรัชนี ฐานโพธิ์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างโรงงานแห่งหนึ่ง ใน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และฝากเป็นอุทาหรณ์กับคนที่จะค้ำประกันการซื้อรถยนต์ให้กับเพื่อน
โดยนางรัชนี ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูที่ดิน ที่ขณะนี้ถูกประกาศขายทอดตลาด ซึ่งมีประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดขอนแก่น สาขาชุมแพ เรื่องขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามสำเนาโฉนด ติดไว้ที่เสารั้วหน้าบ้าน
นางรัชนี ฐานโพธิ์ อายุ 40 ปี กล่าวว่า ที่ดินแปลงดังกล่าว เป็น 1 ใน 2 แปลงที่ถูกสำนักงานบังคับคดีติดประกาศขายทอดตลาด โดยอีกแปลงอยู่ที่ อ.ชุมแพ เนื่องจากตนทำงานเป็นลูกจ้างในโรงงาน และมีเพื่อนสนิทชื่อนางดำ(นามสมมุติ) (ชื่อจริง นางปัญรัศม์ วงษ์คำอุด) ได้ทำการซื้อรถมือสองที่เต้นท์รถแห่งหนึ่งใน อ.ชุมแพ โดยได้มาขอร้องให้ไปเป็นผู้ค้ำประกันในการซื้อรถเมื่อปี 2560 จึงไปเซ็นค้ำประกันการออกรถให้เพื่อน ซึ่งเป็นรถยี่ห้อ นิสสัน นาวาร่า สีฟ้า หมายทะเบียน ผบ-2509 ขอนแก่น ราคาประมาน 290,000บาท ผ่อนจ่ายค่างวดเดือนละประมาณ 2,900บาท
" โดยที่ทางเต้นท์รถมีการรับประกันหลังการขาย 3 เดือน ในกรณีที่เครื้องยนต์ของรถยนต์เสีย ขับไม่ได้ ทางเต้นท์รับประกันรับรถคืนไปซ่อมให้ และหากมีปัญหาให้รีบแจ้งกับทางเต้นท์รถทันที ซึ่งเมื่อเพื่อนซื้อรถมาได้ 2 เดือนรถยนต์ก็เสีย ใช้ไม่ได้ ตนเห็นว่ายังอยู่ในช่วงหลังการขาย จึงบอกให้เพื่อนรีบแจ้งไปที่เต้นท์ขายรถ หรือเอารถส่งคืน แต่เพื่อนไม่ฟัง โดยเพื่อนบอกว่าจะจัดการเอง จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป กระทั่งเวลาผ่านไปหลายเดือนก็มีหนังสือทวงถามค่างวดจากบริษัทไฟแนนซ์ ทวงค่างวดรถจากคนค้ำประกัน จึงไปหาเพื่อน แจ้งให้เพื่อนทราบ ซึ่งเพื่อนยืนยันว่า ส่งงวดรถมาตลอดและได้ส่งรถคืนให้ไฟแนนซ์ไปแล้ว จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป"
นางรัชนี กล่าวต่ออีกว่า ช่วงเดือน ม.ค. 2565 มีประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดี เรื่องขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามสำเนาโฉนด มาติดที่เสารั้วหน้าบ้านซึ่งต้องตกใจเพราะรายละเอียดต่างๆตามหนังสือ คือเรื่องเกี่ยวข้องกับการที่เพื่อนซื้อรถยนต์แล้วไม่จ่ายค่างวดรถ จนถูกไฟแนนซ์ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย รวมถึงจัดการกับคนค้ำประกันด้วย ซึ่งเมื่อได้รับหนังสือขณะนั้นตกใจมาก จึงรีบไปเช็ครายละเอียดต่างๆที่สำนักงานบังคับคดี ทำให้ทราบว่า ต้องหาเงินมาจ่ายค่าหนี้รถยนต์ในจำนวน395,000บาท หรือจ่ายครึ่งหนึ่งก่อนก็ได้ แต่ตนไม่มีเงินจ่าย จึงกลับมาหานางเอที่บ้าน ซึ่งปัจจุบันนางเอลาออกจากงานในโรงงานแล้ว กลับมาค้าขายปลาสดอยู่บ้าน เมื่อเจอกับนางเอ จึงเชิญไปพูดคุยกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน และทำหนังสือยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัทไฟแนนซ์ โดยมีผู้ใหญ่บ้านและพยานรับรู้การทำหนังสือดังกล่าว
"หนังสือดังกล่าวลงวันที่ 7 ม.ค.2565 นางปัญจรัศม์ วงษ์คำอุด อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 ม.11 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า ผู้ยอมรับชดใช้หนี ตามคำสั่งศาล อ.ชุมแพ จขอนแก่น ซึ่งศาล มีคำสั่งให้ นางปัญจรัศมั วงษ์คำอุด ให้ชดใช้หนี้ เนื่องจากผิดนัดส่งค่างวดรถยนต์ ยี่ห้อ นิสสัน ทะเบียน ผบ-2509 ขอนแก่น ติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งเกิดความเสียหายแก่ บริษัท ลิสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท ให้เชาซื้อรถยนต์ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 395,000บาท ซึ่งสัญญาเช่าซื้อ มี นางรัชนี ฐานโพธิ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211 หมู่ที่ 6 ต.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เป็นผู้ค้ำประกันและถูกศาลสั่งยึดทรัพย์ ดังนั้นนางปัญจรัศ วงษ์คำอุด ผู้ซึ่งเป็นจำเลยศาล จึงขอรับชดใช้หนี้ ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวดังนั้น สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเป็นหลักฐาน หาก นางปัญจศม์ วงษ์คำอุด จำเลยศาล ผิดนัดชำระ ให้ดำเนินคดี กับนางปัญจรัศม์ วงษ์คำอุด ต่อไป"
นางรัชนี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด เกิดเพราะเพื่อนไม่ยอมจ่ายค่างวดรถยนต์ที่ซื้อมา และเมื่อรถเสียไม่ยอมส่งกลับให้เต้นท์รถซ่อมตามสัญญาที่รับประกันหลังการขาย แล้วยังเอารถไปซ่อมที่อู่ซ่อมเครื่องยนต์ ในอ.หนองเรือ ค่าซ่อมจำนวน 30,000บาท เมื่อรถจอดซ่อม แถละซ่อมเสร็จ ก็ไม่ไปรับรถ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อม ทางอู่จึงยึดรถไว้ โดยยกเครื่องยนต์รถออก แล้วจอดรถทิ้งไว้หลังอู่ซ่อม แล้วก็มาบอกตนว่า จ่ายค่างวดมาตลอดแล้วก็คืนรถให้ไฟแนนซ์ไปแล้ว ซึ่งเมื่อความจริงเปิดเผย ทุกอย่างตรงกันข้ามกับคำพูดที่เพื่อนพูดมาทั้งหมด และตนในฐานะคนค้ำยังต้องถูกยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดอีก จึงอยากฝากถึงประชาชนคนที่จะค้ำประกันในเรื่องต่างๆให้คนอื่น ควรจะพูดคุยกันให้ดีๆ อย่าไว้ใจคนมากเกินไป สุดท้ายเสียใจ เสียบ้านและที่ดินเหมือนตน และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องกฎหมายมาให้คำปรึกษา หาทางออกช่วยตนด้วย หากทรัพย์ถูกขายไป ตนและครอบครัวจะเดือดร้อนไม่มีที่อยู่อาศัย