วันที่ 28 มิ.ย. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ตรวจพบติดเชื้อโควิด- 19 หลังเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ต่างประเทศ ว่า ภายหลังนายอนุทินเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยก็ได้มีการตรวจด้วยชุดเอทีเค ซึ่งพบว่าติดเชื้อ จากนั้นจึงได้ไปตรวจยืนยันด้วยระบบ RT-PCR ก็ยืนยันผลเป็นบวก โดยนายอนุทินแจ้งความประสงค์ที่จะรักษาตัวที่บ้าน ขณะที่ทีมแพทย์เห็นว่านายอนุทินมีอาการไม่มาก จึงให้ดูแลรักษาอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 5-7 วัน แต่ก็มีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และขณะนี้ได้ให้นายอนุทินรับประทานยาโมนูลพิราเวียร์
เมื่อถามว่ากรณีที่นายอนุทินได้รับการฉีดวัคซีนหลายเข็มแล้ว แต่ยังติดเชื้อ ทำให้หลายคนเกิดความกังวลต่อประสิทธิภาพของวัคซีน นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าวัคซีนยังมีประสิทธิภาพ เมื่อฉีดแล้วก็สามารถติดเชื้อได้ แต่จะช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีอาการไม่มาก
ต่อข้อถามว่าขณะนี้ได้มีการตรวจรหัสพันธุกรรมหรือไม่ว่านายอนุทินติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใด นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการตรวจสายพันธุ์ เพราะการตรวจหาสายพันธุ์จะต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แต่จากนี้จะมีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าขณะนี้นายอนุทินยังสุขภาพแข็งแรงดี จากการที่ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายอนุทิน ก็เห็นว่านายอนุทินแข็งแรงดี มีเสียงอู้อี้เล็กน้อย สมองท่านยังดีมาก ยังสามารถทำงานและสั่งข้อราชการต่างๆได้ตามปกติ
เมื่อถามว่าผู้ที่ร่วมคณะเดินทางไปปฏิบัติราชการต่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เป็นข้อมูลส่วนตัว แต่หลายคนพ้นระยะกักตัวเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ที่ยังอยู่ในระยะที่ต้องเฝ้าสังเกตนั้นขณะนี้ตรวจแล้วก็ยังไม่มีใครติดเชื้อ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าขณะนี้มีรายงานผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทวีปยุโรป ตรวจพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้โรคโควิด-19 กำลังเดินเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งยังมีการติดเชื้อได้ แต่ส่วนใหญ่จะอาการไม่รุนแรง สามารถดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ หรือดูแลตัวเองที่บ้าน หากใครมีอาการมาก ก็จะเข้ารับการดูแลในโรงพยาบาลในระบบผู้ป่วยใน แต่จากข้อมูล ตอนนี้ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงน้อยมาก
เมื่อถามว่าไทม์ไลน์การประกาศให้โรคโควิด- 19 เป็นโรคประจำถิ่นของไทยยังเหมือนเดิมหรือไม่ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยังอยู่ในแผน โดยกำลังรอดูสถานการณ์อีกสักระยะ เนื่องจากพบการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA. 5 จึงขอดูสายพันธุ์ตรงนี้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วเราต้องมีการปรึกษาหารือกันอีกครั้ง ซึ่งถ้าเห็นว่าไม่ได้มีผลกระทบกับประเทศไทยมากนัก และทุกอย่างยังเป็นไปตามปกติ เราก็จะเดินหน้าตามแผนที่จะประกาศให้โควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่น