(27 มิ.ย.65) เวลา 10.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวก่อนเข้าประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้อาคารพานิชย์ย่านสำเพ็งวานนี้ (26มิ.ย.65) ว่า กรุงเทพมหานครต้องดูเรื่องขั้นตอนการบริหารจัดการเหตุอย่างไร ใครเป็นผู้บัญชาการเหตุ รวมถึงการบริหารทรัพยากรบุคคล ส่วนการไฟฟ้านครหลวงคงต้องทบทวนความเสี่ยงที่มาจากหม้อแปลง ซึ่งภายในเขตกรุงเทพฯ มีประมาณ 400 กว่าลูก และสายไฟสายสื่อสารที่เป็นตัวที่ไฟลามมาได้ รวมถึงอาคารที่มีเชื้อเพลิงมาก เป็น 3 ปัจจัยที่มีผลทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งนี้ โดยในวันพรุ่งนี้ (28มิ.ย.65) ได้เชิญหน่วยงานภายนอก 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง และทางตำรวจ มาประชุมหารือแนวทางการประสานงานร่วมกันซึ่งจะได้นำเรื่องนี้เข้าหารือด้วย ในส่วนของ กทม.เราเองก็จะเร่งนำสายสื่อสารลงดิน เหตุครั้งนี้จะเป็นตัวเร่งให้เราทำเร็วขึ้นด้วย ต้องเร่งเต็มที่ เป็นบทเรียนราคาแพงที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข และขอประชาชนช่วยตรวจสอบความเสี่ยงของหม้อแปลด้วย หากพบมีความเสี่ยง เช่น หม้อแปลงมีสายสื่อสารรกรุงรัง และอยู่ใกล้อาคารที่มีเชื้อเพลิงจำนวนมาก ให้แจ้งเข้ามาจะเร่งประสานการไฟฟ้าฯไปแก้ไข 

นอกจากนี้ ยังได้สัางตรวจอาคารสถานบันเทิงต่างๆ ด้วย ดูเรื่องความปลอดภัยอาคาร ทางหนีไฟ เชื้อเพลิงภายในอาคาร และมาตรฐานการดับเพลิง จากกรณีเหตุไฟไหม้ที่ซอยสีลม โชคดีที่เกิดช่วงกลางวัน หากเกิดช่วงกลางคืนที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากก็จะเป็นอันตรายมากกว่านี้ ซึ่งได้สั่งทุกเขตสำรวจไป 2 สัปดาห์แล้ว 

ในส่วนของการประชุมวันนี้ก็จะมีการถอดบทเรียนเหตุไฟไหม้ที่คลองเตย และจะมีรายงานเหตุที่สำเพ็งเพื่อนำไปสู่การถอดบทเรียนต่อไป 

สำหรับการประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานครในวันนี้ มีวาระการประชุม เรื่อง แผนการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น เรื่อง การผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทั่วราชอาณาจักร เรื่อง การประกาศจัดให้มีสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะ เรื่อง การถอดบทเรียนกรณีเพลิงไหม้ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ เขตปทุมวัน เรื่อง การดำเนินการด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของกรุงเทพมหานคร และ เรื่อง การประชุมสุดยอดผู้นำภาคเอกชนของเอเปค 2565 (APEC CEO Summit 2022)