นักบริหารที่ประสบความสำเร็จ คือนักบริหารที่เป็นผู้นำ ซึ่งในยุคที่ data มีความสำคัญ ผู้นำจึงต้องปรับพฤติกรรม และสร้างระบบความคิด เพื่อให้เท่าทันสถานการณ์ และเปิดโอกาสให้กับพนักงาน เพื่อพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

“บทบาทผู้นำและการปรับตัวในยุค 2030” เป็นหัวข้อในการบรรยาย จาก ดร.เจษฎา ช ยิ่งเจริญ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้กับผู้รับการศึกาาหลักสูตร”นักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง” หรือ นยปส.รุ่นที่ 13 โดย ดร.เจษฎา กล่าวว่า การเป็นนักบริหารไม่ได้ตัดสินด้วยความรู้สึก แต่ตัดสินด้วยเหตุและผล รวมถึงสถานการณ์ที่เหมาะสมในการเลือกบุคลากรทำงาน ดังนั้น คน จึงสำคัญกว่ากระบวนการ ที่ต้องคัดกรองคนทำงานที่มีคุณภาพ ซึ่งภาพแห่งความจริงของโลกยุคใหม่ อยู่บนพื้นฐานที่ data มีค่ามากกว่าน้ำมัน และทุกอย่างในโลกล้วนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถไว้ใจได้ ยกตัวอย่าง เรื่อง ตลาดคลิปโต หรืออีกหลายเรื่องบนโลกแห่ความจริงที่มีความอ่อนไหว เช่น เพียงรู้เบอร์โทรศัพท์ มือถือของใคร ก็สามารถเข้าไปดู ชื่อ ที่อยู่ และบัญชีต่างๆ ได้ 

ผู้นำจึงเป็นเสมือน power bank ที่เป็นคนมีพลัง แต่ไม่ใช่พลังงานสำรอง จึงต้องสร้างระบบคิด และต้องอย่าขาดการเรียนรู้ ปรับปรุง แก้ไข ผู้นำต้องรู้ถึงการจัดลำดับว่าอะไรควรทำก่อนหรือหลัง ต้องมองโอกาสและเป้าหมาย เพื่อคิดยุทธศาสตร์ ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่คาดหวังว่าจ่ายไปแล้ว สิ่งที่ได้รับกลับมาคุ้มค่าหรือไม่

โลกยุคนี้ต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เพื่อยุคเปลี่ยนผ่าน และองค์กรจะประสบความสำเร็จต้องมี ผู้นำ กุนซือ และขุนศึก ซึ่งผู้นำคือ คุณธรรม ที่จะตัดสินรับผิดชอบชั่วดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมก่อนส่วนตน 

การสร้าง eco system คือการสร้างกลุ่มที่คนที่ต้องการทำเหมือนกันมารวมกัน เช่น app rider สิ่งที่ได้คือ business features  ดังนั้น ผู้นำ ต้องสร้างแรงจูงใจพนักงาน ให้เขาได้แสดงความคิดเห็น สนับสนุนวิสัยทัศน์พนักงาน และผู้นำต้องมองไปข้างหน้า