ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่อาคารพิพิชภัณฑ์วัดไผ่ล้อม หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์
วัดเสาธงทอง-วัดปรมัยยิกาวาส ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รวมถึงแจ้งประชาสัมพันธ์การดำเนินการตามโครงการให้ประชาชนเข้าใจในวัตถุประสงค์โครงการองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้รับผิดชอบพื้นที่ จำเป็นต้องจัดให้มีการประชุมประชาคมร่วมกันกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงรายละเอียด แผนงาน หรือข้อหารือสภาพปัญหาและแนวทางต่างๆในการดำเนินการโครงการดังกล่าว ตลอดจนการได้รับฟังข้อคิดเห็น สภาพปัญหาทั้งก่อนและหลังการดำเนินการจากทั้งทางภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนที่มีผลกระทบจากโครงการก่อสร้าง โดยจะประชุมในวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2465 เวลา 10.00 น. ณ อาคารพิพิชภัณฑ์วัดไผ่ล้อม หมู่ที่ ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด
โดย น.ส.กัลยารัตน สืบสินผล อายุ 55 ปี ชาวเกาะเกร็ด กล่าวว่า ในการประชุมตนก็อยากจะถามว่าโครงการนี้เริ่มแล้วหรอ มันมีสัญญาว่าจ้างมาเท่ากับโครงการมันเริ่มแล้ว แล้วมันเริ่มได้ยังไงซึ่งมันยังไม่ผ่านประชาพิจารณ์ ประชาคม หรือสอบถามชาวบ้านเลย แล้วเริ่มได้ยังไงเขาก็ตอบเราไม่ได้ เขาแค่บอกว่าโครงเริ่มไปแล้วแล้ววันนี้ที่มาประชุมคือเราแค่มารับฟังเขาว่าจะมีการทำรูปแบบไหนอะไรยังไงบ้าง ตนมองว่าการทำแบบนี้มันไม่ใช่ ถ้าตามปกติมันมีขั้นตอนอยู่แล้วว่าโครงการนี้ขึ้นมาได้ยังไง เขาก็อ้างว่าโครงการนี้เริ้มมาตั้งแต่ตอนที่นายกรัฐมนตรีเข้ามาตั้งแต่ปี61 แล้วพวกเราชาวบ้านก็เหมือนมีการร้องทุกข์ไปในเรื่องน้ำท่วม และในช่วง2-3ปีที่ผ่านมามันเป็นช่วงของโควิด จึงไม่ได้มีการประชาคมให้ชาวบ้านได้รับทราบ และตอนนี้ทางชาวบ้านยังไม่เห็นแบบแล้วเราจะปล่อยให้สร้างได้อย่างไร ซึ่งการประชุมในวันนี้ก็ได้เข้าไปรับฟังแต่จริงๆแล้วทางเราก็ค้านโครงการนี้และยังไม่เห็นด้วยกับใดๆก็ตามที่จะมาทำลายวิถีชีวิตชาวเกาะเกร็ดซึ่งถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของจังหวัดนนทบุรี เพราะฉะนั้นก่อนจะทำอะไรนอกจากผลกระทบของคนที่อยู่ริมน้ำหรือผู้ประกอบการร้านค้าที่อยู่ริมน้ำเขามีผลกระทบโดยตรงรวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาที่เกาะเกร็ดด้วย
ด้านผู้ประกอบการร้านเตี๋ยวอิงน้ำในเกาะเกร็ด กล่าวว่า หลังจากที่มีการประชาคมเมื่อเช้านี้ชาวบ้านบางส่วนก็เห็นแล้วว่าระดับการสร้างมันสูงเกินไป และที่สำคัญยังมีถนนอีกซึ่งส่งผลกระทบต่อบ้านที่อยู่ริมน้ำ และผู้ประกอบการริมน้ำ และที่สำคัญที่สุดคือเหมือนกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการพูดคุยให้เข้าใจกัน ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจไปคนละอย่าง สุดท้ายความเห็นจึงไม่ตรงกัน รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆที่ชาวบ้านขอดูแต่ยังไม่ได้ดูและยังไม่เห็น ประกอบกับชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำ มีการสะท้อนให้เห็นว่า เมื่อก่อสร้างแล้วผลกระทบที่จะเกิดขึ้นคืออะไรก็ทำให้มันยังไม่ได้ข้อสรุป
โดยส่วนตัวตนแล้วคิดว่ามีผลกระทบแน่นอน เพราะการสร้างถ้าระดับมันสูงเกินไปมันก็ดูไม่เหมาะไม่ควร เพราะว่าบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำเมื่อเปิดบ้านมาก็จะเจอกำแพงเลย ไหนจะขยะไหนจะอะไรอีกตรงนี้ก็ต้องมีการบริหารจัดการให้ชัดเจน เพราะการสร้างเขื่อนในลักษณะนี้ก็ไม่ได้มีที่เกาะเกร็ดที่เดียวที่อื่นก็มีและก็ส่งผลกระทบหลายๆอย่าง หลายๆจังหวัดที่มีซึ่งชาวบ้านเขาไปดูมาแล้วเขาก็เกิดความรู้สึกกลัว ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดก็น่าจะมีการพูดคุยกันอีกครั้งระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและควรจะมาให้หมดไม่ใช่ส่งตัวแทนมาหรือมาบ้างไม่มาบ้าง ซึ่งทางชาวบ้านก็มีคำถามที่จะต้องถามกับหน่วยงานนั้นๆหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ไม่สามารถได้รับคำตอบเนื่องจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงไม่มาเหมือนเมื่อเช้าที่ผ่านมา ทั้งนี้ก็อยากให้ก่อนจะก่อสร้างโครงการอะไรก็แล้วแต่ควรจะลงมาทำประชาพิจารณ์หรือทำประชาคมก่อน