วันที่ 25 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันครบรอบวันสถาปนาหนังสือพิมพ์สยามรัฐ หนังสือพิมพ์รายวันที่มีอายุยาวนานที่สุดที่ยังวางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ การนำเสนอข่าวสารตลอดระยะเวลา 72 ปีที่ผ่านมา และกำลังก้าวสู่ปีที่ 73 อย่างมั่นคง ๆ ได้ผ่านร้อน ผ่านหนาวมาอย่างมากมาย เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ เป็นกระบอกเสียงในการนำเสนอข่าวให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบอย่างตรงไป ตรงมา จนเป็นที่ไว้วางใจต่อเนื้อหาที่ได้นำเสนอข่าว
หากมองย้อนไปในอดีตมุมมองของนักวิชาการได้กล่าวถึงการกำเนิดของสยามรัฐไว้ว่าอย่างไรนั้น ขออนุญาตนำความบางช่วงบางตอนจากบทความเรื่อง "นักหนังสือพิมพ์ชื่อคึกฤทธิ์" เขียนโดย ศาสตราจารย์กิตติคุณ สุกัญญา สุดบรรทัด ตีพิมพ์ในหนังสือ "100 ปี คึกฤทธิ์" มานำเสนอดังนี้ สยามรัฐ อาจเรียกได้ว่า เป็นหนังสือพิมพ์คู่บุญของ คึกฤทธิ์ เขาคือผู้ให้กำเนิดหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้อุปถัมภ์กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูมาเป็นเวลาช้านาน ทั้งสยามรัฐนั้น ถ้าจะเปรียบไปแล้วก็เหมือนเวทีแสดงความเห็นของคึกฤทธิ์ เป็นอาวุธทางการเมืองที่กลายเป็นหอกข้างแคร่ของรัฐบาลมาหลายยุคหลายสมัย คึกฤทธิ์ ต่างจากนักการเมืองอื่นๆ ที่ออกหนังสือพิมพ์ ด้วยในแง่ที่ว่าเขาเองเป็นผู้ที่เข้าใจจิตวิญญาณของหนังสือพิมพ์เป็นอย่างดี เนื่องจากตัวเขาเองก็เป็นนักหนังสือพิมพ์ ได้โดดมาทำงานหนังสือพิมพ์ด้วยตนเอง มิใช่นั่งชี้นิ้วอยู่ห่างๆให้หนังสือพิมพ์ทำเช่นนั้น เช่นนี้ตามใจตน โดยที่ตนไม่รู้เรื่องหนังสือพิมพ์ และธรรมชาติของประชามติเลย จอมพลป.ก็ดี พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ก็ดี ต่างก็มีหนังสือพิมพ์ของตนเอง แต่ในเกมการต่อสู้ สยามรัฐ กลับได้รับการหนุนจากประชาชนมากกว่า คึกฤทธิ์ ได้ปล่อย (หรืออย่างน้อย ก็มีความตั้งใจที่จะปล่อย)ให้กองบรรณาธิการของเขามีอิสระในการตัดสินใจ ทั้งนี้ เพราะหนังสือพิมพ์ย่อมรู้ดีถึงธรรมชาติของตนที่จะคอยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล หากสยามรัฐ ต้องการจะเป็นหนังสือพิมพ์ที่ดีก็จะต้องปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้โดยเคร่งครัด หนังสือพิมพ์ต้องไวต่อกระแสความเห็นของประชาชน และเหตุการณ์ที่ผันแปรไปทุกเมื่อเชื่อวัน เปรียบเหมือนขนนกที่ไหว สะเทือนไปตามแรงลม หนังสือพิมพ์ที่เป็นฝักเป็นฝ่ายของกลุ่มพรรค หรือกลุ่มคนหรือรัฐบาล หากมุ่งหวังแต่เพียงจะเป็นกระบอกเสียงเช่นนั้นแล้ว ก็จะมีสายตาอันมืดบอดต่อกระแสความเห็นและความต้องการของประชาชน และกลับจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชน
เมื่อคึกฤทธิ์จะออกหนังสือพิมพ์สยามรัฐนั้น เขาก็ยังไม่ได้คิดจะเลิกการเมือง แต่เขามุ่งหวังจะให้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เป็นหนังสือพิมพ์ที่ดี ทำหนังสือพิมพ์ออกมาฉบับหนึ่ง คือหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ด้วยความคิดว่าจะใช้หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างถูกต้อง ไม่เป็นพวกใครทั้งนั้น คือแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เป็นหนังสือพิมพ์ซึ่งถือหลักหนังสือพิมพ์ทุกประการ คือถือเอาความจริงเป็นใหญ่ ไม่ลงข่าวที่ไม่มีความจริง ไม่กำหนดข่าวขึ้นเอง ไม่ใช้อารมณ์ในการเขียนข่าว ซึ่งปรากฏว่า สยามรัฐ ปฏิบัติเช่นนั้นได้จริง เป็นความแตกต่างจากหนังสือพิมพ์ในยุคนั้นโดยทั่วไปที่เน้นข่าวประเภทเร้าอารมณ์ ความแตกต่างดังกล่าว เมื่อผสมผสานกับความมีอารมณ์ขันของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ก็ทำให้สยามรัฐ เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นเมื่อมาถึงปัจจุบันการนำเสนอข่าวหนังสือพิมพ์สยามรัฐได้มีการพัฒนาในการนำเสนอให้มีหลายเซคชั่น อาทิ ข่าวการเมือง ข่าวภูมิภาค ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวอาชญากรรม ข่าวกทม. ข่าวต่างประเทศ และข่าวกีฬา ซึ่งเนื้อหาในการนำเสนอมาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และเป็นเนื้อหาที่เกิดขึ้นจริง และเป็นเรื่องปัจจุบันทันด่วน เพื่อให้ผู้อ่านไม่ตกหล่นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
และหนึ่งในเซคชั่นที่ได้รับการยอมรับจากผู้อ่าน และแหล่งข้อมูลที่ให้ข้อมูลในการนำเสนอ คือ "เซคชั่นเศรษฐกิจ" โดยทางหนังสือพิมพ์สยามรัฐได้เปิดใจจากผู้อ่าน และนำเสนอข้อมูล ถึงการนำเสนอข่าวเซคชั่นเศรษฐกิจอย่างไร
"ธนาคารออมสิน" ในวาระที่หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ดำเนินกิจการมาครบ 6 รอบ (72 ปี) ซึ่งถือว่าเป็นสื่อมวลชนที่มีประวัติยาวนาน มีการปรับตัวและยืนหยัดในยุค Disruption ของสื่อโซเชียล ยืนหนึ่งในการรักษาแฟนข่าวได้อย่างเหนียวแน่น และยืนหนึ่งในการเป็นสื่อมวลชนมืออาชีพและจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสูง นำเสนอข่าวสารฉับไว ตรงไปตรงมา สำหรับข่าวหน้าเศรษฐกิจมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนารูปแบบการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งความรอบด้านครบถ้วนในเนื้อหาและการใช้ขนาดตัวอักษรเหมาะสมอ่านง่าย ในวาระครบรอบ 72 ปี ธนาคารออมสินขอแสดงความยินดีและส่งความปรารถนาดีมายังคณะผู้บริหาร นักข่าว และพนักงานทุกท่าน ขอให้สยามรัฐอยู่คู่สังคมไทย มีความเจริญรุ่งเรืองและยั่งยืนตลอดไป
ตลอด 72 ปี ที่ผ่านมา การนำเสนอข่าวสารด้านเศรษฐกิจของ น.ส.พ.สยามรัฐ ได้สร้างประโยชน์ให้กับสังคมเป็นอย่างมาก ทั้งจากการผ่านข่าวสารประจำวัน หรือจากบทความ บทวิเคราะห์ต่างๆ ที่ทำให้ผู้อ่านได้รับมุมมองด้านเศรษฐกิจที่หลากหลายมากขึ้น ก่อให้เกิดการนำข้อมูลข่าวสารที่ได้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในโอกาสนี้ "ธนาคารอาคารสงเคราะห์" (ธอส.) ขอแสดงความยินดีกับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 73 อย่างภาคภูมิ และขอให้ Section เศรษฐกิจของ น.ส.พ.สยามรัฐ ผลิตและนำเสนอผลงานคุณภาพเช่นนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนผู้อ่านแบบนี้ตลอดไป
นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ เอไอเอส มีการนำเสนอข่าวที่ทันต่อสถานการณ์และครอบคลุมประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจอย่างครบถ้วน ทั้งบนสิ่งพิมพ์และออนไลน์ เข้าถึงคนทุกกลุ่ม และเป็นกระบอกเสียงให้กับคนไทย
บมจ.ดีแทค.....ในโอกาสที่หนังสือพิมพ์สยามรัฐเป็นหนังสือพิมพ์ที่มีอายุครบรอบ 72 ปี ปัจจุบันสื่อต้องเผชิญกับความท้าทายในยุคที่เทคโนโลยีการสื่อสารเป็นตัวกำหนดทิศทางการดำเนินงานของสื่อ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่
ในฐานะที่หนังสือพิมพ์สยามรัฐเป็นสื่อมวลชนที่ดำเนินงานมายาวนานที่สุด และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 73 ต่อจากนี้ หวังว่าสยามรัฐจะทำหน้าที่เป็นสื่อมวลชนได้อย่างกล้าหาญ ในการเสนอข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เพื่อตอกย้ำความเป็นสื่อมืออาชีพ กับบทบาทในการนำเสนอข่าวสารสู่สาธารณะ ได้อย่างเต็มความสามารถ
บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น...นับเป็นเวลา 72 ปีแล้ว ที่หนังสือพิมพ์สยามรัฐได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนอยู่คู่กับสังคมไทย นำเสนอข่าวสารที่มีคุณภาพ รอบด้าน มีสาระประโยชน์ รวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการที่สื่อฉบับใดจะดำรงอยู่ได้ยาวนานย่อมบ่งบอกถึงคุณภาพ ประสิทธิภาพ และต้องได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอย่างแท้จริง และในโอกาสขึ้นสู่ปีที่ 73 นี้ ขออาราธนาอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดดลบันดาลให้คณะผู้บริหาร และชาวสยามรัฐทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ก้าวหน้าในอาชีพสื่อมวลชน เสริมสร้างสังคมที่ดีตลอดไป
ต้องขอขอบพระคุณต่อความรู้สึกของแหล่งข่าวที่มีให้กับ "หนังสือพิมพ์สยามรัฐ" ตลอดมา