นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ มีความเหมาะสมในการปลูกทุเรียนอยู่ประมาณ 6,000 กว่าไร่ ขณะนี้เกษตรกรที่ลงมือปลูกแล้ว สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 3,000 กว่าไร่ โดยมีการปลูกกันทุกอำเภอแต่ที่ปลูกมากที่สุดคือบ้านทะเลหอย อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ราคาที่ขายส่งหน้าสวนประมาณกิโลกรัมละ 100 บาท ขณะนี้ได้มีการนำหัวหน้าส่วนราชการในระบบ Supply Chain (ห่วงโซ่อุปทาน) คือ กระบวนการจัดการการผลิตเพื่อทำให้เกิดสินค้าหรือบริการขึ้นมา ทั้งด้านการจัดหาวัตถุดิบ บริหารการผลิต การจัดเก็บสินค้า ไปจนถึงกระบวนการจัดส่งสู่มือของลูกค้า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ (Demand) ของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนและทั่วถึง
โดยเฉพาะสวนทุเรียนหมอนทองของนายภาณุมาศ ไทรงาม อยุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ขณะนี้ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาดมีพื้นที่ปลูกจำนวน 35 ไร่ สามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 70 ตัน สร้างรายได้ประมาณ 7 ล้านบาท / ปี เป็นทุเรียนที่มีคุณภาพเนื่องจากบ้านทะเลหอย อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การปลูกทุเรียนมาก เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่ดี ดินมีความอุดมสมบูรณ์ เพราะชื่อบ้านทะเลหอยก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าสภาพพื้นดินที่นี่มีเปลือกหอยปะปนอยู่มีแร่ธาตุโดยเฉพาะเศษเปลือกหอย ทำให้ทุเรียนที่นี่มีความอร่อย มีคุณภาพที่ดี
นอกจากนี้ก็ได้มาดูในเรื่องของกระบวนการจัดเก็บทุเรียน คุณภาพในการจัดเก็บเพื่อให้เป็นสินค้า GAP หรือว่า GI ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความเชื่อมโยง ระหว่างปัจจัยสำคัญสองประการ คือ ธรรมชาติและมนุษย์ กล่าวคือ ชุมชนได้อาศัยลักษณะเฉพาะที่มีอยู่ในแหล่งภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติ เช่น สภาพดินฟ้าอากาศ หรือวัตถุดิบเฉพาะในพื้นที่ มาใช้ในอนาคต โดยมีการรวมกลุ่มผลิต เพื่อที่จะส่งออกไปต่างประเทศ เป็นพื้นที่ที่สร้างเศรษฐกิจให้กับจังหวัดกระบี่ได้เป็นอย่างดี นอกจากการท่องเที่ยว
นายชำนาญ นุ่นดำ เกษตรจังหวัดกระบี่ กล่าวเพิ่มว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ได้มีการเข้าไปส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพื่อให้ได้รับมาตรฐานในเรื่องของ GAP และในเรื่องของการลดต้นทุนการผลิตโดยจะส่งเสริมเกษตรกรในเรื่องของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินเพื่อลดต้นทุนการผลิต ให้ได้คุณภาพผลผลิตตรงตามความต้องการของตลาดแล้วให้รวมกลุ่มกัน เพื่อให้เป็นเกษตรแปลงใหญ่ที่มีคุณภาพ