สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน แถลงสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่หลายมณฑลทางตอนใต้ของประเทศ โดยระบุว่า ปริมาณฝนที่ตกตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ค. ถึงกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่มณฑลกวางตุ้ง มณฑลฝูเจี้ยน และเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มีอัตราเฉลี่ยวัดได้ 621 มิลลิเมตร หรือราว 24 นิ้ว ซึ่งเป็นปริมาณมากที่สุดในรอบ 60 ปี ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมสูงฉับพลัน และทางน้ำต่างๆ ในที่ราบลุ่มต่ำของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล ล้นท่วมตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา จนทำให้พื้นที่ทางการเกษตร และการผลิตต่างๆ รวมถึงโลจิสติกส์ ตลอดจนการเดินเรือ ได้รับผลกระทบ ซ้ำเติมจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้เกิดภาวะตึงตัวของห่วงโซ่อุปทาน การผลิตสินค้าที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ทั้งนี้ มณฑลกวางตุ้ง ได้ออกมาประเมินความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมดังกล่าวในเวลานี้อยู่ที่ 1,700 ล้านหยวน (คิดเป็นเงินไทยราว 8,976 ล้านบาท) และประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 480,000 คน ในจำนวนนี้ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนกว่า 200,000 คน ขณะเดียวกัน ทางด้านทางการกว่างซีจ้วง ได้ออกมาเตือนภัยแก่ประชาชน หลังปริมาณในแม่น้ำ 28 สาย เอ่อท่วม เช่นเดียวกับทางการของเจียงซี ที่ยกระดับการเตือนภัยน้ำท่วมเป็นสีแดง

พร้อมกันนี้ ทางการท้องถิ่นของจีน ยังได้มีคำเตือนเกี่ยวกับภาวะดินถล่ม จากเหตุฝนตกหนัก และน้ำท่วมสูงข้างต้น