เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 65  ผู้สื่อข่าว ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านศูนย์ไหม หมู่ 3 ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร  ว่า ถนนบ้านศูนย์ไหม - เหมืองบ่า  ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นหลุมเป็นบ่อ และมีฝุ่นละออง ชาวบ้านสัญจรไป – มาลำบาก  อาทิ  เด็กไปโรงเรียน  ชาวบ้านไปหาหมอ  และใช้สัญจรในชีวิตประจำวันตลอดจนเส้นทางนี้เป็นเส้นทางขนส่งพืชผลทางการเกษตร จากการสังเกตมีรถบรรทุก 10 ล้อบรรทุกดิน หิน วิ่งผ่านหมู่บ้านดังกล่าวตลอดทั้งวัน


           นางทูล วาปี  อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 106 หมู่ 3 บ้านศูนย์ไหม ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร บอกว่า  อยากให้มาช่วยซ่อมถนน เพราะถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ เด็กนักเรียนไปโรงเรียนลำบาก ฝุ่นละอองเข้าบ้าน หน้าฝนสัญจรไปมาลำบาก และเกิดอุบัติบ่อย ๆ ตั้งแต่มีรถบรรทุกหนักมาวิ่งทำให้ถนนพัง อยากให้มาทำถนนให้ใหม่ ให้สัญจรไปมาได้สะดวกสบาย


          นางวิลัย สิงห์สร  อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 104 หมู่ 3 บ้านศูนย์ไหม ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร  บอกกับผู้สื่อข่าวว่า  บ้านเรือนที่อยู่ริมถนนเดือดร้อนเรื่องฝุ่นละอองเข้าบ้าน อยากให้ซ่อมถนน รถบรรทุกหนักมาวิ่งทำให้ถนนพังเป็นหลุมเป็นบ่อ และเกิดอุบัติเหตุบ่อยมีบาดเจ็บหลายราย


          ด้านนาย ประติยุค ปัญมาต  อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 74 หมู่ 3 บ้านศูนย์ไหม ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า  ถนนดังกล่าวเป็นหลุมเป็นบ่อ ไปมาลำบาก อยากให้มาซ่อมเร่งด่วน ช่วงนี้ไปมาลำบาก ถนนพังเยอะ รถสัญจรไปมาก็ยาก ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาก มีรถบรรทุกหนัก อยากให้ออกมาซ่อมให้เร็ว ๆ ชาวบ้านใช้ถนนเส้นนี้ทุกวัน ถ้าให้รอดำเนินการอาจช้าเกินไป ถนนดี ๆ รถบรรทุกหนักมาทำพัง ต้องมาซ่อมให้เรา ชาวบ้านที่ใช้เส้นทางนี้ ประมาณ 200 กว่าครอบครัว ถนนเส้นนี้เชื่อมระหว่างตำบลมุกดาหาร - ตำบลคำอาฮวน ระยะทางเกือบ 2 กม. อยากให้มาซ่อมให้  ช่วงที่รถใหญ่มาวิ่งรถหนักมาวิ่ง ชาวบ้านไปมาลำบาก อยากให้มาทำคืนสภาพเหมือนเดิม 


           ร.ต.ต.สุเทียน ทองโสม  ผู้ช่วยดำเนินงาน นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ทำหน้าที่ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร  กล่าวว่า  มารับหนังสือร้องทุกข์จากชาวบ้านศูนย์ไหม ได้รับความเดือดร้อนจากรถบรรทุกหิน ทราย ดิน วิ่งผ่านเส้นนี้ทำให้ถนนชำรุด รับเรื่องนี้จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทราบมาว่าเป็นของ อบจ.มุกดาหาร จะประสานเร่งรีบมาดำเนินการ เพื่อให้พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ได้ใช้รถใช้ถนนในการสัญจรไปมาได้สะดวกสบายต่อไป