นาย เดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ (Dirk De Cuyper) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า  บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)  SHR บริษัทเรือธงในการประกอบธุรกิจโรงแรมของ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เดินหน้าเต็มกำลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตโฟลิโอในสหราชอาณาจักร ลุยต่อยอดความสำเร็จบน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การหมุนเวียนลงทุนและการปรับปรุงสินทรัพย์ การควบรวมและซื้อกิจการ และการพัฒนาธุรกิจด้วยโมเดล Asset Light เพื่อเร่งเพิ่มศักยภาพโรงแรมด้านการแข่งขัน พร้อมขับเคลื่อนการฟื้นตัวของธุรกิจหลังการระบาดใหญ่ทั่วโลก

สำหรับสหราชอาณาจักรถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท โดยมีสัดส่วนถึง 65% ของจำนวนห้องพักรวมในกลุ่มธุรกิจทั่วโลก ปัจจุบันมีโรงแรมในสหราชอาณาจักรทั้งสิ้น 27 แห่ง รวม 2,940 ห้อง ซึ่งดำเนินงานภายใต้แบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ เมอร์เคียว และ ฮอลิเดย์ อินน์ โดยในปี  2564 และ ปี 2565 บริษัทฯ มีแผนปรับปรุงคอลเลกชันโรงแรมทั่วสหราชอาณาจักร ผ่านการใช้กลยุทธ์การหมุนเวียนลงทุนสินทรัพย์ กล่าวคือการขายสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพต่ำ และนำเงินที่ได้ไปลงทุนในโรงแรมที่มีศักยภาพสูง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเพิ่มรายได้ของพอร์ตโฟลิโอ 3 เท่าภายในปี  2567

ทั้งนี้ SHR ได้สานต่อกลยุทธ์นี้อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกุมภาพันธ์  2564 ที่ผ่านมา เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้ทุ่มงบกว่า 13.75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 560 ล้านบาท) เพื่อซื้อหุ้นเพิ่มอีก 50% ในกิจการโรงแรม 26 แห่งในสหราชอาณาจักร ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมด 100% ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนในสหราชอาณาจักรระยะยาว สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านธุรกิจโรงแรมของประเทศ

จากนั้นในเดือนเมษายน  2564 บริษัท จูปิเตอร์ โฮเทลส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SHR ถือหุ้น 100% ได้บรรลุข้อตกลงการขายโรงแรมเมอร์เคียว นิวบูรี แอลคอต ปาร์ค ซึ่งเป็นโรงแรมขนาด 73 ห้อง คิดเป็นมูลค่ารวม 4.25 ล้านปอนด์ ถือเป็นโรงแรมแห่งแรกจากทั้งหมด 6 แห่งซึ่งอยู่ภายใต้แผนการขายของบริษัทฯ ล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2565 เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้บรรลุข้อตกลงการขาย โรงแรมเมอร์เคียว เบอร์ตัน อัพพอน เทรนต์ นิวตัน พาร์ค มูลค่า 2 ล้านปอนด์

โดยเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์แห่งนี้จะถูกนำไปลงทุนใหม่เพื่อยกระดับสินทรัพย์อื่น ๆ ในสหราชอาณาจักรที่มีศักยภาพการแข่งขันสูง ซึ่งสามารถสร้าง EBITDA ได้ถึง 60 - 70% ของ EBITDA รวมของพอร์ตการลงทุนในสหราชอาณาจักร  โดย SHR คาดว่าความสำเร็จของการขายจะมีแนวโน้มที่ดีไปจนถึงช่วงปลายปีนี้ สนับสนุนโดยปัจจัยบวกด้านสภาวะตลาดที่สามารถเอื้อต่อราคาขายที่เหมาะสม

ซึ่ง จุดแข็งหลักของพอร์ตโฟลิโอโรงแรมในสหราชอาณาจักรของ SHR คือมีความสมดุลทั้งในด้านภูมิศาสตร์และฤดูกาล ทั้งนี้ คาดว่าพอร์ตการลงทุนในสหราชอาณาจักรจะสามารถรักษาผลประกอบการที่แข็งแกร่งได้ตลอดทั้งปี จะส่งผลให้รายได้ในปี 2565 ของพอร์ตดังกล่าวเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 50%