วันที่ 14  มิถุนายน นายธนะรัช เกตุอุดม สมาชิกสภาเทศบาลเมือง (ส.ท.)ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3  นายแดง แก้วชิงดวง อดีตประธานชุมชนปากคลองบางนางรม  ประธานกลุ่มเรือประมงพื้นบ้าน เข้าพบพนักงาน ป.ป.ช.ที่สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.จ.ประจวบคีรีขันธ์เพื่อยื่นเอกสารหลักฐานให้ทำการไต่สวนเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้บริหารท้องถิ่นมีพฤติการณ์เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากมีการตรวจสอบการใช้งบประมาณโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชนหรือโครงการ เอส เอ็ม แอล ในปีงบประมาณ 2555 ของชุมชนตลาดสด ใช้งบประมาณกว่า  4 แสนบาท ได้รับการจัดสรรจากกองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองฯ  จัดทำโครงการจัดซื้อเรือท่องเที่ยวตกหมึก ตกปลาลำละ 2 แสนบาท  พร้อมอุปกรณ์ฯมูลค่า 2 แสนบาท  แต่ปัจจุบันไม่มีเรือไว้บริการนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด  

 นายธนะรัช  กล่าวว่า ได้เดินทางไปร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมเป็นครั้งที่ 2 แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับเรื่อง  และแจ้งให้ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเทศบาล  โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอ้างว่าการเปิดเผยข้อมูล อาจจะทำให้เจ้าหน้าที่เทศบาลดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมาย  ขณะที่มีการชี้แจงจากศูนย์ดำรงธรรมหลังการร้องเรียนครั้งแรก ระบุว่า เรือเสื่อมสภาพ ไม่สามารถหาเงินมาซ่อมแซมได้ ไม่มีบุคลากรดำเนินการ จึงจำหน่ายซากเรือ ปัจจุบันมีเงินในบัญชีคงเหลือ 10,446.23  บาท  

 จากการตรวจสอบพบว่าผู้เกี่ยวข้องได้ขายเรือในสภาพดี ให้ผู้ประกอบการรายหนึ่งที่ ต.คลองวาฬ อ้างว่ามีสัญญาซื้อขายขายในราคา  7 หมื่นบาท  แต่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในกองสวัสดิการสังคมฯอ้างว่าไม่ทราบเรื่อง  ไม่มีหลักฐาน  ปัจจุบันเทศบาลยังไม่ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง 

นายแดง แก้วชิงดวง อดีตประธานชุมชนปากคลองบางนางรม  ประธานกลุ่มเรือประมงพื้นบ้านเขตเทศบาลเมืองฯ  กล่าวว่า ได้ลงชื่อเป็นพยานในการร้องเรียน ป.ป.ช.  พร้อมชี้แจงข้อพิรุธในการซื้อเรือของชุมชนตลาดสด  โดยขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่าเรือที่มีการจัดซื้อเดิมเป็นของประธานชุมชนตลาดสดจริงหรือไม่  มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดรายใดมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำเอกสารหลักฐานซื้อขาย  ขณะที่ชุมชนปากคลองซื้อเรือนำเที่ยว 2 ลำ ราคา 4 แสนบาท จากงบประมาณในปีเดียวกันกับชุมชนตลาดสด ปัจจุบันยังมีหลักฐานซากเรือพร้อมเอกสารในการจัดประชุม รายชื่อกรรมการในชุมชน การเบิกจ่ายเงินจาก ธกส.
+++++