เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2565 พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และ พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารและรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่หาดบางเทา จ.ภูเก็ต เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องการประมงพื้นบ้านและการท่องเที่ยว รวมถึงรณรงค์เรื่องการกระจายอำนาจในแคมเปญ “ขอคนละชื่อปลดล็อกท้องถิ่น” โดยมี มาโนช พันธ์ฉลาด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ให้การต้อนรับและร่วมนำการพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่
พรรณิการ์กล่าวว่า อบต. เชิงทะเล เป็น อปท. เพียงแห่งเดียวในภาคใต้ที่ทำงานร่วมกับคณะก้าวหน้า ที่ผ่านมาคณะก้าวหน้าได้สนับสนุนเรื่ององค์ความรู้และผู้เชี่ยวชาญเชิงเทคนิคใน 2 โครงการ คือ การพัฒนาคุณภาพน้ำประปา และ การก่อสร้างอู่ซ่อมเรือ โดยยึดหลักว่าการทำโครงการใดก็ตาม ต้องออกแบบให้ตรงความต้องการของประชาชนในพื้นที่
“อบต. เชิงทะเล มีงบประมาณจากภาษีประชาชนราว 250 ล้านบาท คนในพื้นที่ควรได้รับคุณภาพชีวิตที่ดี คณะก้าวหน้าส่งวิศวกรที่เก่งเรื่องการก่อสร้างมาช่วยออกแบบอาคารซ่อมเรือ แต่เราจะไม่ทำตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่รู้ดี พวกเราจะรับฟังความเห็นเพื่อให้ได้สิ่งที่ตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด นี่คือหลักการของการกระจายอำนาจ” พรรณิการ์กล่าว
พริษฐ์ กล่าวว่า การกระจายอำนาจ คือการโอนถ่ายอำนาจและงบประมาณมาไว้ใกล้ท้องถิ่นและใกล้ชิดกับประชาชน เพราะผู้บริหารท้องถิ่นมาจากการเลือกตั้งจากประชาชนและมีความยึดโยงกับประชาชนและใกล้ชิดพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาท้องถิ่นมีศักยภาพ มีผู้บริหารที่มีความสามารถมากมาย แต่ทำอะไรลำบากเพราะติดข้อจำกัดเรื่องกฎหมาย ดังนั้น ต้องแก้ไขกติกาและเพิ่มอิสรภาพในการใช้งบประมาณ เพิ่มสัดส่วนรายได้ท้องถิ่นต่อส่วนกลาง เป็น 50:50 เมื่อเจอปัญหาอะไร ท้องถิ่นจะแก้ไขได้ทันที เพราะที่ผ่านมา เราไม่ได้มีเงินน้อย เพียงแต่อำนาจยังอยู่ไม่ถูกที่ถูกทาง ซึ่งการกระจายอำนาจจะช่วยแก้ไขเรื่องนี้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมาโนช พันธ์ฉลาด นายก อบต.เชิงทะเล ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การก่อสร้างอาคารซ่อมเรือโดยได้รับการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากคณะก้าวหน้า จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมเรือ ทำให้ชาวประมงในพื้นที่มีความสะดวกมากขึ้นและไม่เสียโอกาสในการทำมาหากิน ขณะที่ประชาชนที่มาร่วมพูดคุยได้สะท้อนปัญหาและความต้องการ และเชื่อว่าหากอำนาจเต็มในการตัดสินใจมาอยู่ที่นายกท้องถิ่นที่พวกเขาเลือก จะสามารถแก้ไขปัญหาในพื้นที่หลายๆ เรื่องที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ และยังได้แสดงความหวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของขั้วการเมืองฝ่ายรัฐบาล และสร้างความเปลี่ยนแปลงพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนได้