วันที่ 12 มิ.ย.65 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า ... 

42% ของคนที่มีประวัติดื่มเหล้าและเสพกัญชาในรอบปีที่ผ่านมา รายงานว่าได้ขับขี่ยานพาหนะในภาวะมึนเมา (Driving under influence)

ทั้งนี้กลุ่มคนที่ทั้งดื่มเหล้าและเสพกัญชา มีการรายงานว่าตนเองขับขี่ในภาวะมึนเมาจากเหล้าและกัญชามากกว่าไม่มึนเมาถึง 3.51 เท่า

ในขณะที่กลุ่มคนที่ดื่มเหล้าอย่างเดียวนั้น มีการรายงานว่าขับขี่ในภาวะมึนเมาจากเหล้ามากกว่าไม่มีนเมา 1.72 เท่า

นี่คือผลการศึกษาเชิงสำรวจในประชากรอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ในสหรัฐอเมริกา จำนวน 34,514 คน ในช่วงปี 2016-2019 ที่ผ่านมา เพิ่งตีพิมพ์ผลการวิจัยในวารสารการแพทย์ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน American Journal of Preventive Medicine ฉบับเดือนพฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมานี้เอง

และตอกย้ำให้เห็นภาพอนาคตที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย หลังการปลดล็อคกัญชา และเน้นย้ำให้เห็นความสำคัญของการสร้างความตระหนัก และให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อให้ระมัดระวังในการดำเนินชีวิต

เพราะอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นนั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ พิการ หรือตายสำหรับคนเสพเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบต่อคนอื่นในสังคมที่เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไม่เสพยาอีกด้วย

จำเป็นต้องสอนลูกหลานให้ระมัดระวัง ป้องกันตัว หลีกให้ห่างไกลยาเสพติด เพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตทั้งของตนเองและผู้อื่น

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพ เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat