จากข้อมูลเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปีของวีซ่า (Visa Consumer Payment Attitudes Study) พบว่า การใช้จ่ายแบบไร้เงินสด การช้อปปิ้งออนไลน์ และการเที่ยวล้างแค้น  คือสามเทรนด์ผู้บริโภคหลักที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังโควิดถูกลดระดับสู่โรคประจำถิ่น

นาง ซีรีน เกย์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ ได้เห็นผู้บริโภคมองหาวิธีการชำระที่เหนือกว่าในด้านความรวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น  เมื่อประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้เปิดพรมแดนอีกครั้ง จึงถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับธุรกิจทั้งหลายที่จะปรับตัวและเปิดรับ เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาในการดำเนินธุรกิจ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่วิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งการปิดร้านค้าในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด ทำให้เกิดการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางใหม่ๆ อย่างมากมาย โดยมากกว่าครึ่งของผู้บริโภคชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (55%) เคยลองช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์เป็นครั้งแรก และแนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในประเทศอินโดนีเซีย (72%) เวียดนาม (66%) และไทย (65%)

โดยมากกว่าสองในห้าของนักช้อป (42%) ยังเลือกที่จะสั่งซื้อของทางโทรศัพท์จากร้านค้าใกล้บ้านเป็นครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม (57%) ไทย (54%) และฟิลิปปินส์ (45%) ขณะที่ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่เปลี่ยนไปช้อปผ่านช่องทางสื่อโซเชียล (40%) ซึ่งเวียดนามเป็นประเทศที่คนนิยมการช้อปแบบนี้มากที่สุด (50%) ตามด้วยประเทศไทย (49%) และฟิลิปปินส์ (46%)

ด้านการท่องเที่ยวนั้น แนวโน้มจะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า เที่ยวล้างแค้น จะเกิดขึ้นจากความต้องการที่อั้นไว้ก่อนหน้าของผู้คนที่อยากจะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวอย่างเสรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทย โดยจากการศึกษาของวีซ่าครั้งนี้พบว่า เกือบครึ่งของผู้บริโภคชาวไทย (46%) น่าจะมีการเดินทางไปเที่ยวยังต่างแดนในปีหน้า ตามด้วยผู้บริโภคของสิงคโปร์ (41%) และฟิลิปปินส์ (38%)