ตร.แจงไม่เคยสั่งการให้เฝ้าระวังกลุ่มบุคคลสัญชาติอิหร่าน-คนไทยมุสลิมชีอะห์ที่อาจแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศ

วันที่ 8 มิ.ย.65 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ/รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าตามที่ปรากฏข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ อ้างอิงเว็บไซต์สำนักข่าว Bangkok Post ที่อ้างว่า  สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีข้อสั่งการลับไปยังหน่วยงานในสังกัดให้เฝ้าระวังกลุ่มบุคคลสัญชาติอิหร่านและคนไทยมุสลิมชีอะห์ที่อาจแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศซึ่งเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน นั้น  ขอเรียนว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง สำนักงานตำรวจแห่งชาติมิได้มีการสั่งการให้เฝ้าระวังกลุ่มบุคคลข้างต้น พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้กองการต่างประเทศตรวจสอบยืนยันกับประเทศที่เกี่ยวข้องผ่านช่องทางตำรวจสากลเกี่ยวกับการจับกุมคนร้ายที่ประเทศอินโดนีเซียในปี 2564  ผลปรากฏว่าทางการตำรวจอินโดนีเซียมิได้มีการประสานข้อมูลการข่าวกับทางการตำรวจไทยในการขยายผลถึงบุคคลอื่นที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในประเด็นที่เกี่ยวกับความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องในการรักษาสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC 2022  ในปีนี้  ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีขั้นตอนและมาตรการที่กำหนดไว้แล้ว และขอเน้นย้ำว่า กรณีที่มีข้อมูลข่าวสารที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการที่เกี่ยวข้องด้วยความละเอียดรอบคอบอย่างไม่เลือกปฏิบัติ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและความสัมพันธ์ระหว่างมิตรประเทศเป็นสำคัญ  
 
อนึ่ง ระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดการประชุมร่วมระหว่างตำรวจไทย-ตำรวจเมียนมา ระดับบริหาร ครั้งที่ 1  โดยมีการหารือในหัวข้อเรื่องการป้องกันและปราบปรามการก่อการร้ายในภูมิภาค และที่ประชุมได้เห็นพ้องตรงกันว่า ภัยก่อการร้ายเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียนจะต้องร่วมมือ และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้เกิดเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค พร้อมทั้งจะมีการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยคุกคามที่เกี่ยวเนื่องกับการก่อการร้ายเพื่อป้องกันการโจมตีในทุกรูปแบบ

 ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ดำเนินการตรวจสอบการเสนอข่าวของสำนักข่าว Bangkok Post และสื่ออื่นๆที่ได้นำเสนอข่าว ตามอำนาจหน้าที่ซึ่งระบุไว้ในกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง