ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เพจเฟซบุ๊ก ชมรมแพทย์ชนบท ได้เผยแพร่ข้อมูล โดยระบุข้อความว่า วัคซีนโควิดล้นคลัง สธ. ควรแก้ปัญหาอย่างไร
จากกระแสการรับรู้ของสังคมตลอด 2 วันที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการที่ สธ.มีจดหมายแจ้งจัดสรรวัคซีน 16.8 ล้านโดส ลง รพ.สต.ทั่วประเทศ เปรียบเสมือนการเอาวัคซีนไปทิ้งที่ปลายทาง เพื่อแก้ปัญหาวัคซีนล้นคลังส่วนกลาง
วัคซีนซิโนแวค 1.17 ล้านโดสนั้น ไม่มีใครจะฉีดแล้ว เปลืองค่าส่ง เปลืองตู้เย็น ที่มีอยู่ในพื้นที่เองรวมๆกันก็เชื่อว่ามีอีกนับล้านโดสที่รอวันหมดอายุ แรงงานต่างด้าวเขาก็ไม่เอาซิโนแวค และจะนำมาเป็นเข็มกระตุ้นก็ไม่ได้
วัคซีนแอสตร้า 9.76 ล้านโดส ยังมีเต็มคลังในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็น รพ.สต. รพช. และระดับจังหวัด เนื่องจากเพิ่งได้รับจัดสรรมาเมื่อเดือนเมษายน 65 ซึ่งก็รอวันหมดอายุเช่นกัน และคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันเลือกที่จะฉีดไฟเซอร์มากกว่า
วัคซีนไฟเซอร์ 5.86 ล้านโดส เป็นวัคซีนที่ยังมีความนิยมสูงสุด แต่ความต้องการการฉีดในปัจจุบันก็ลดลงไปมาก จำนวนที่ได้รับจัดสรรมาแล้วก็ยังเต็มตู้เย็นรอวันหมดอายุเช่นกัน และอีกประเด็นคือ ต้องเก็บในคลังวัคซีนที่มีอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส หากเอาออกจากคลัง –70 องศาแล้ว ไฟเซอร์ฝาม่วงจะมีอายุเพียง 1 เดือน ไฟเซอร์ฝาเทาจะมีอายุ 2.5 เดือน ซึ่งก็ถือว่าสั้นมาก และระดับจังหวัดก็ไม่มีตู้เย็นชนิดนี้ การนำวัคซีนส่งออกจาก สธ. ก็คือ เริ่มนับวันหมดอายุทันที จึงควรเก็บวัคซีนไว้ในคลังวัคซีน -70 องศาที่ส่วนกลางเหมือนเดิม แล้วค่อยให้พื้นที่ทยอยเบิกตามจำนวนที่ต้องการ ซึ่งในปัจจุบันก็มีการเบิกอยู่ทุกสัปดาห์ไม่มีขาด การส่งวัคซีนออกมารอบนี้จึงเป็นการส่งมาเพื่อให้พื้นที่ช่วยทำลายวัคซีนให้กระทรวงนั่นเอง
ข้อเสนอที่ทางสธ.ควรจะเปิดอกรับพิจารณามี 2 ประการคือ
1. ขอให้รัฐบาล ศบค.และ สธ.ยอมรับความจริงว่า สั่งวัคซีนมาเกินกว่าความต้องการ พื้นที่ก็ขยันฉีดและทำกันเต็มที่แล้ว วัคซีนยังมีอยู่เต็มตู้เย็น ดังนั้นหากจะแก้ปัญหาวัคซีนล้นคลัง สธ.ก็ให้แก้ด้วยการยอมรับสภาพแบบแมนๆ หากหมดอายุ บริจาคไม่ออก ก็รวบรวมไปทำลาย ไม่ต้องส่งมาให้หมดอายุที่ รพ.สต.
2. ระบบการเบิกและจัดการคลังวัคซีนในปัจจุบันที่พื้นที่ตั้งเบิกตามจำนวนที่ต้องการเป็นรายสัปดาห์ ก็เป็นระบบที่ดีอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาขาดแคลนวัคซีนในพื้นที่ จึงควรให้มีการจัดสรรแบบเดิมต่อไป
ชมรมแพทย์ชนบท เสนอแนะเรื่องดังกล่าวเพราะเราอยู่หน้างาน เสนอแนะด้วยความจริงใจ ไม่ได้หวังสร้างความเสียหายแก่ใคร แค่หวังจะเห็นการแก้ปัญหาให้ถูกต้องเหมาะสม หนังสือราชการออกมาแล้วไม่ลงตัวก็แก้ไขปรับเปลี่ยนได้ ขอให้ผู้หลักผู้ใหญ่รับฟังเสียงสะท้อนจากพื้นที่ในครั้งนี้ และหวังว่าวันจันทร์จะได้รับข่าวดี